มาถูกทาง กินน้อยตายน้อยจากโควิด-19

มาถูกทาง กินน้อยตายน้อยจากโควิด-19

รากฐานซึ่งนำมาถึงหลักการความเชื่อ จนกระทั่งถึงการประพฤติและปฏิบัติของการงดอาหาร เป็นระยะ หรือลดอาหาร

จนกระทั่งถึงการกินเข้าใกล้มังสวิรัตินั้น มาจากการที่มีกลไกในการปรับการใช้พลังงานโดยเผาผลาญกลูโคสและไกลโคเจน จนกระทั่งถึงกระบวนการในการสร้างกลูโคส หมด แล้วปรับเปลี่ยนโหมดเป็นการสร้างคีโตนในขณะที่มีการผลิตคีโตนนั้น จะทำให้มีกรดไขมันซึ่งรวมถึงกรดไลโนลีอิก (linoleic acid) เพิ่มขึ้นในกระแสเลือด ทั้งนี้ กรดไลโนลีอิกนี้เองที่พิสูจน์แล้วในการทดลองรายงานในวารสาร Science ในปี 2020 ว่าจะไปจับกับโปรตีนหนาม สไปค์ของโควิดได้อย่างแน่นหนาและทำให้โควิดนั้นไปจับกับตัวรับในเซลล์ของมนุษย์คือ ACE2 ได้ลดลง ความสำคัญของตัวรับนี้คือเป็นตัวควบคุมการปรับเปลี่ยนให้กลไกเบี่ยงเบนเข้าหาระบบของการอักเสบหรือระบบที่ละลาย และต่อต้านการอักเสบการงดอาหารยังส่งผลป้องกันในระยะยาวจากผลกระทบที่เกิดจากการติดเชื้อ ทั้งนี้ อธิบายจากการที่มีโปรตีน galectin-3 เพิ่มขึ้นโดยไม่เกี่ยวข้องกับการที่จะผอมลงหรือไม่ก็ตาม โดยเป็นผลจากการศึกษาที่มีชื่อว่า WONDERFUL trial (Water only fasting interventional trial) โดยออกแบบการศึกษาทอดระยะเวลายาวหกเดือนและในแต่ละอาทิตย์จะมีหนึ่งวันที่กินแต่น้ำอย่างเดียวเท่านั้นตัว galectin-3 ที่ว่า ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคในช่วงที่มีการติดเชื้อในระยะเฉียบพลันโดยช่วยในระบบต่อต้านเชื้อโรคที่เป็นปราการด่านแรก innate immune system ทั้งผ่าน PRR และ DAMP และในระยะถัดมาหลังจากที่การติดเชื้อสงบไปแล้ว จะออกฤทธิ์ไปในทางสงบการอักเสบเรื้อรัง

มาถูกทาง กินน้อยตายน้อยจากโควิด-19

การอักเสบเรื้อรังในร่างกายที่เป็นผลตามจากการติดเชื้อหรือที่เกิดขึ้นในโรคเมตาบอลิก เช่น เบาหวาน และโรคหัวใจ หัวใจวายจะมีระดับของ galectin-3 สูงขึ้นโดยประเมินการเสียชีวิตหรือการที่ต้องเข้าโรงพยาบาล และการติดเชื้อ

จำนวนประชากรที่ศึกษา 5,795 ราย อยู่ในระบบลงทะเบียนสวนตรวจเส้นเลือดหัวใจและอยู่ในระบบการติดตาม INSPIRE อย่างครบถ้วน พร้อมทั้งมีข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลสุขภาพ ความเสี่ยงของโรคต่างๆรวมทั้งโรคหัวใจและการตรวจเส้นเลือดทั้งหมด ในจำนวนนี้ 1,682 ราย หรือ 29% ได้รับการตรวจโควิดระหว่างวันที่ 16 มีนาคม 2020 และ 25 กุมภาพันธ์ 2021 และ 1,457 ราย ได้ผลลบ และ 225 ราย ได้ผลบวก คือมีการติดโควิดเกณฑ์ของการเข้ากลุ่มอดอาหารเป็นระยะ (periodic fasting หรือ faster) คือต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยห้าปี และกลุ่ม non-faster คือไม่เคยปฏิบัติเลยหรือทำไม่ประจำหรือหยุดทำก่อนที่จะจบการศึกษา ดังนั้น มี 158 คนที่แม้จะมีการทำอดอาหารเป็นระยะมานานกว่าห้าปี แต่หยุดทำไป ไม่ได้นำรวมในการประเมินผลของการลดความเสี่ยงอาการหนักและการตายกลุ่มคนที่ศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในกลุ่มที่เคร่งศาสนาที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ เพราะตัวแปรเหล่านี้ต้องนำมาควบรวมในการพิจารณา ด้วย พร้อมกับเชื้อชาติ รายได้เศรษฐานะ ระดับการศึกษา สภาพการแต่งงาน สภาพการจ้างงาน ชนิด และความเข้มข้นของการออกกำลังและแน่นอนรวมข้อมูลต้นทุนทางด้านสุขภาพทั้งหมดด้วย

แนะนำข่าวอาหาร อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : SX Food Festival งาน SX 2022 วันที่ 2 ไม่แผ่ว! แห่ชิมเมนูเด็ดกว่า 100 ร้านดัง ศูนย์สิริกิติ์