เจนอัลฟ่าคิดอย่างไร มิติใหม่ฟรีสไตล์ทีแคส

เจนอัลฟ่าคิดอย่างไร มิติใหม่ฟรีสไตล์ทีแคส เรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่ หรือเปิดใจกว้างของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)

การศึกษา มีมติให้นักเรียนที่เข้าสอบเพื่อศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2566 หรือทีแคส สามารถเลือกสอบด้วยกระดาษ หรือด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ และยังไปไกลกว่านั้น อนุญาตให้ทาเล็บ ทำสีผม สวมแว่นตา ใส่คอนแท็กต์เลนส์ ชุดเข้าสอบเปิดฟรีสไตล์แต่งตัวแบบไหนก็เข้าสอบได้เพียงแต่ให้สุภาพกลุ่มเพศทางเลือก แต่งเนื้อแต่งตัวไม่ต้องตรงกับเพศกำเนิดก็ได้เป็นการให้อิสระ ความเป็นตัวของตัวเอง เกิดความสบายใจในการทำสอบสอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนไปของโลกสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และสอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านของเยาวชนคนรุ่นใหม่ เจนอัลฟ่ารุ่นที่ถูกนิยามตัวตนว่าจะฉลาดที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ ด้วยความพร้อมทางเทคโนโลยีหลากหลาย มีทักษะทางเทคโนโลยีดิจิทัลสูง ทำให้สามารถเรียนรู้ได้เร็ว ผสมผสานองค์ความรู้ต่างๆ ได้ดี และการเติบโตมากับโลกไร้พรมแดน จึงเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมของคนทั่วโลกได้ง่าย รักอิสระในการใช้ชีวิต

เจนอัลฟ่าคิดอย่างไร มิติใหม่ฟรีสไตล์ทีแคส

การเปิดกว้างข้างต้นมีเสียงจากผู้กำกับระบบการศึกษาอย่างกระทรวงศึกษาธิการ

การศึกษา รวมไปถึงบรรดาผู้ปกครอง แสดงความวิตก เสรีภาพเช่นนั้นอาจกระทบกระเทือนระเบียบวินัย ความรับผิดชอบของผู้อยู่ในวัยเรียน
มติชน ทำการสำรวจเยาวชนเจน อัลฟ่า คิดเห็นอย่างไรกับความฟรีสไตล์นี้พรชิตา หล่อทอง หรือ น้องออม นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะเปิดกว้างให้เด็กใส่ชุดอะไรก็ได้มา สอบ เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล เพราะการสอบเราเอาความรู้เข้าไปสอบ ดังนั้น ควรจะเปิดกว้างให้ใส่ชุดสุภาพมาเข้าสอบได้ ส่วนที่บางคนกังวลว่าหากเปิดกว้างอาจกระทบเรื่องระเบียบวินัย มองว่าปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ควรโฟกัสเรื่องนี้กัญญาภัทร ศิริ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย แม้ว่าการสอบไม่ได้วัดกันที่ใครจะใส่ชุดอะไรก็จริง แต่เราควรมีระเบียบกำหนดเป็นภาพรวม หากเปิดกว้างให้ใส่ชุดอื่นเข้าสอบ เวลามองภาพรวมแล้ว อาจไม่เป็นระเบียบ แต่หากใส่ชุดนักเรียนเหมือนกันหมด ทำให้เวลามองภาพรวมแล้วรู้สึกว่ามีความเป็นระเบียบมากกว่า เพราะสถานที่ที่เราไปสอบคือโรงเรียน เป็นศูนย์ราชการ สถานที่ราชการ ควรมีกรอบให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วยน้องโจ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง กล่าวว่า เห็นด้วย เพราะเป็นการเปิดให้นักเรียนมีอิสระในการเลือก หรือตัดสินใจในร่างกายของตนเอง ทำให้นักเรียนรู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น ลดความประหม่า และเป็นการแสดงให้เห็นว่าสังคมเปิดกว้างในเรื่องความหลากหลาย สิทธิเสรีภาพ และความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ส่วนการสมัครสอบปีนี้มีเป้าหมายอยากเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ และเลือกไว้แล้วว่าจะลงสมัครสอบในวิชา TPAT1 หรือวิชาความถนัดเฉพาะแพทย์ที่ผู้ใหญ่บางคนไม่เห็นด้วยเพราะห่วงเรื่องกฎระเบียบและวินัยนั้น มองว่าอาจเป็นสิ่งใหม่สำหรับผู้ใหญ่บางคนในเรื่องการเปิดกว้าง อาจไม่ได้ปรับตัว แต่อยากให้ลองเปิดใจในสิ่งใหม่ๆ เพราะการเปิดกว้างสำหรับนักเรียน เป็นการให้เกียรตินักเรียนแต่ละคน ในเมื่อนักเรียนเขาได้รับการให้เกียรติ เขาก็จะรักษาวินัย เพื่อแสดงให้เห็นว่าการเปิดกว้างไม่ได้เกี่ยวข้องกับระเบียบวินัย เป็นคนละส่วนกัน มองว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรจะได้รับ เพราะมนุษย์แต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกัน ควรจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะอายุน้อยหรือมาก ทุกคนไม่ควรได้รับการตัดสินใจโดยมองแค่ในด้านเดียว

แนะนำข่าวธุระกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ครูมืด ประสาท ทองอร่าม ครูโขน ปรมาจารย์วัฒนธรรมไทย เสียชีวิตแล้ว