ผู้นำญี่ปุ่นเยือนโซลกระชับสัมพันธ์ รับมือภัยคุกคามจากโสมแดง-ปักกิ่ง

ผู้นำยุยงน ซอกยอน ของประเทศเกาหลีใต้ แล้วก็กระชับความเกี่ยวข้องระหว่างสองชาติ ท่ามกลางภัยรุกรามด้านปรมาณูจากเปียงยาง แล้วก็การอ้างสิทธิอย่างกระด้างขึ้นของกรุงปักกิ่ง

ข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ  การเยี่ยมเยือนของคิชิดะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเยี่ยมโซลคราวแรกในรอบ 12 ปีของหัวหน้าประเทศญี่ปุ่น เกิดขึ้นภายหลังจากเมื่อมีนาคม ยุยงนเดินทางเยี่ยมเมืองโตเกียวเพื่อบากบั่นเลิกความไม่ถูกกันในสมัยก่อนที่ครอบครองความเกี่ยวข้องประเทศญี่ปุ่น-ประเทศเกาหลีใต้มานานยาวนานหลายปีดังนี้ ก่อนเริ่มเดินทาง คิชิดะกล่าวกับนักข่าวว่า เขาหวังว่าจะได้ปรึกษาหารือและขอคำแนะนำอย่างเปิดกว้างบนรากฐานความวางใจกับยุยงน โดยมิได้กำหนดหัวข้อการปรึกษาหารือที่เฉพาะทางด้านยุยงน นั้นกำลังพบเจอการวิพากษ์วิจารณ์ภายในประเทศว่า หยิบยื่นให้มากยิ่งกว่าที่ได้รับกลับมาขณะเพียรพยายามปรับแก้ความข้องเกี่ยวกับเมืองโตเกียว ซึ่งรวมทั้งการเสนอว่า ธุรกิจของประเทศเกาหลีใต้จะเป็นผู้จ่ายทดแทนให้เหยื่อแรงงานในตอนการรบระหว่างการยึดครอบครองของประเทศญี่ปุ่นในปี 1910-1945 แทนที่จะเป็นบริษัทประเทศญี่ปุ่นตามคำสั่งศาลข้าราชการประเทศเกาหลีใต้หวังว่า คิชิดะจะหยิบยื่นความเป็นมิตรเหมือนกันทดแทนรวมทั้งเสนอการส่งเสริมด้านการเมือง แต่ว่า มีนักสังเกตการณ์น้อยมากคาดว่าประเทศญี่ปุ่นจะขอประทานโทษอย่างเป็นทางการเพิ่มสำหรับข้อผิดพลาดในอดีตกาล ส่วนยุยงนเองส่งสัญญาณว่า เขาไม่คิดว่า ประเทศญี่ปุ่นจะต้องขออภัยอีกคุ้นชิน-วา ลี ศ.จ.ด้านความเกี่ยวเนื่องระหว่างชาติของมหาวิทยาลัยประเทศเกาหลีในโซล ชี้ว่า จุดสนใจของการประชุมสุดยอดนี้มีทิศทางว่าน่าจะเป็นความร่วมมือด้านความมั่นคงและยั่งยืนเพื่อต่อกรภัยรุกรามด้านปรมาณูของประเทศเกาหลีเหนือคุ้นชินเสริมว่า ด้านในกรอบโครง “คำสาบานวอชิงตัน” ที่กำหนดแผนสร้างเสริมการป้องห้ามที่ครอบคลุมเพิ่มขึ้น ประเทศเกาหลีใต้จะตรวจสอบแนวทางเกื้อหนุนความเพียรพยายามเชิงร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น ข้าราชการกระทรวงต่างแดนของประเทศญี่ปุ่นเอ่ยถึงประเด็นนี้ว่า สองประเทศเป็นไปได้มากสำหรับการร่วมมือกันในหัวข้อการจัดการภัยรุกรามจากประเทศเกาหลีเหนือ

ผู้นำญี่ปุ่น 6

ช่วงเวลาเดียวกัน ความเกี่ยวเนื่องวอชิงตัน-เมืองปักกิ่งกำลังปะทุหนัก ช่วงเวลาที่จีนอ้างสิทธินิสัยเสียขึ้นเหนือไต้หวันรวมทั้งสมุทรจีนใต้ และก็อเมริกาประกาศช่วยเหลือผู้ช่วยเหลือทั่วทวีปเอเชีย-แปซิฟิค

ข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ  แต่กระนั้น การขัดกันในสมัยก่อนระหว่างประเทศเกาหลีใต้กับประเทศญี่ปุ่นมีทิศทางครอบครองความข้องเกี่ยวที่กำลังบานของสองหัวหน้า ลีชี้ว่า คนประเทศเกาหลีใต้จำนวนมากมั่นใจว่า ประเทศญี่ปุ่นยังขออภัยไม่มากพอสำหรับความชั่วร้ายในตอนที่ประเทศญี่ปุ่นครอบครองประเทศเกาหลีใต้ระหว่างปี 1910-1945 และก็มีความรู้สึกว่า คิชิดะควรจะแสดงความบริสุทธิ์ใจระหว่างเยี่ยมโซลคราวนี้ ยกตัวอย่างเช่น เอ๋ยถึงปัญหาในอดีตกาลแล้วก็กล่าวขออภัย แดเนียล รัสเซลล์ อดีตกาลผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างถิ่นสหรัฐอเมริกา ด้านทวีปเอเชียทิศตะวันออกรวมทั้งแปซิฟิค มั่นใจว่า คิชิดะจะระแวดระวังไม่รีบร้อนดำเนินงานเกินกว่าได้รับอนุญาตทางด้านการเมือง โดยชี้ว่า การเลิกกติกาเกี่ยวกับ “หญิงบำเรอ” ฝ่ายเดียวของรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้เป็นต้นเหตุให้เมืองโตเกียวจำเป็นต้องเดินหมากอย่างระมัดระวัง ดังนี้ประเทศเกาหลีใต้แล้วก็ประเทศญี่ปุ่นบรรลุกติกาที่กำหนดให้เมืองโตเกียวออกถ้อยแถลงขออภัยอย่างเป็นทางการต่อ “หญิงบำเรอ” ที่โดนจับไปเป็นขี้ข้าในสำนักนางโลมในตอนการทำศึก รวมทั้งมอบเงิน 1,000 ล้านเยน (9.23 ล้านดอลลาร์) เพื่อเป็นกองทุนช่วยเหลือเหยื่อพวกนั้น ผู้นำประเทศเกาหลีใต้ในช่วงเวลานั้นตกลงใจเลิกล้มกองทุนดังกล่าวข้างต้น ซึ่งพอๆกับการเลิกล้มกติกาโดยปริยาย ด้วยเหตุว่าคิดว่า มิได้คิดถึงความกลุ้มใจของเหยื่อมากพอ คิชิดะยังชวนยุยงนร่วมประชุมสุดยอดกรุ๊ปจี7 สิ้นเดือนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วก็จัดแจงสัมมนาสามข้างกับอเมริกาไปพร้อม ศูนย์ข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนยังกล่าวว่า คิชิดะบางทีอาจเรียกร้องให้จัดสัมมนาสามข้างกับจีนอย่างรวดเร็วที่สุดข้างในปีนี้

แนะนำข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  รัสเซีย ยูเครน : สหรัฐฯ เผยทหารรัสเซียตายในสมรภูมิเมืองบักห์มูตกว่า 20,000 คน

ผู้นำตุรกีเผย กองทัพสังหารหัวหน้าใหญ่กลุ่มไอซิสในซีเรียได้แล้ว

สำนักข่าวต่างแดนแถลงการณ์ว่า นายเรเจป ไตยิป เอร์โดอัน ผู้นำที่ประเทศตุรกีบอกกับสื่อแคว้น ว่า กองทัพของพวกเขาฆ่านาย อาบู ฮุสเซน อัล-คูไรชี

ข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ หัวหน้าสูงสุดของกรุ๊ปติดอาวุธเมืองอิสลาม หรือ ไอสิส ในซีเรียได้แล้ว ในปฏิบัติงานจู่โจมเมื่อวันเสาร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา นายเอร์โดอันเผยระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ TRT Turk ว่า ที่ทำการข่าวกรองประเทศตุรกี (MIT) ติดตามนาย อัล-คูไรชี มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานแล้ว แล้วก็ “พวกเราจะดิ้นรนต่อสู้กับหน่วยงานก่อให้เกิดเหตุร้ายถัดไป โดยไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชังอะไรก็แล้วแต่ทั้งหมด”ด้านสมาชิกนายหนึ่งของหน่วยสารวัตรทหารประเทศตุรกี ซึ่งขยับเขยื้อนช่วยเหลือกองกำลังข้างต้านรัฐบาลในซีเรีย บอกกับสำนักข่าว เอพี ว่า MIT ปะทะกับนักสู้ไอสิสที่ฟาร์มในหมู่บ้าน มิสกา ข้างในจังหวัดอเลปโป เมื่อเวลากลางดึกกรุ๊ปไอสิส ยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆก็ตามเกี่ยวกับข่าวสารการเสียชีวิตของหัวหน้าใหญ่ของพวกเขา แม้กระนั้นนายอัล-คูไรชี เพิ่งจะได้รับการแต่งเป็นหัวหน้าสูงสุดของกรุ๊ป

ผู้นำตุรกีเผย 11

ภายหลังจากหัวหน้าคนก่อนถูกฆ่าในต.ค. 2565 และก็เพียรพยายามจะฟื้นฟูกรุ๊ป

ข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ ที่ตอนนี้สูญเสียอำนาจรวมทั้งดินแดนที่พวกเขาเคยครอบครองในอิรักกับซีเรียไปแล้วทั้งหมดทั้งปวงและก็ระหว่างการต่อสู้อันถึงใจถึงอารมณ์ นาย อัล-คูไรชี ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในบ้านข้างหลังหนึ่ง ก็จุดระเบิดตนเองในตอนที่กรุ๊ปสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ซึ่งรอติดตามเหตุการณ์สงครามกลางเมืองในซีเรียมาตลอด บอกว่า ประสบพบเห็นโดรนของประเทศตุรกีบินในพื้นที่ดังที่กล่าวมาแล้ว รวมทั้งมีทหารซีเรียข้างต้านกีดกันถนนหนทางที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่นี้ด้วย ภายหลังได้รับการแจ้งเตือนจากข้างประเทศตุรกี ดังนี้ ประเทศตุรกีมีกระทำการทางด้านทหารต้านทานกรุ๊ปไอสิสและก็กรุ๊ปติดอาวุธชาวเคิร์ดรอบๆชายแดนซีเรียอยู่บ่อยมาก รวมทั้งพวกเขาเข้าควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ทางด้านเหนือของซีเรียเอาไว้ ภายหลังจากส่งทหารเฉดหัวไล่กรุ๊ปชาวเคิร์ดออกไปจากพื้นที่ชายแดนประเทศตุรกี-ซีเรีย

แนะนำข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  นานาชาติเร่งอพยพคนออกจากซูดาน

“โจ ไบเดน” ประกาศลงสมัครเลือกตั้ง ปธน. สมัย 2 ย้ำอายุเป็นเพียงตัวเลข

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา วัย 80 ปี ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลงต่อสู้ผู้นำยุคที่ 2 เพื่อสะสางงานให้สำเร็จ วอนประชากรส่งเสริม ย้ำมาตลอดอายุเป็นเพียงแค่จำนวนเพียงแค่นั้น ขอให้มองที่ผลงาน

โจ ไบเดน 16

ข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ ตอนวันที่ 25 เม.ย. 2566 เว็บข่าวสาร CNN แถลงการณ์ว่า นายโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา วัย 80 ปี ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลงประกวดตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นยุคที่ 2 เพื่อสะสางงานให้สำเร็จ ตามแผนงานต่างๆที่รัฐบาลชุดเดี๋ยวนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีกลาย อย่างไรก็แล้วแต่ การเลือกผู้แทนพรรคเดโมแครตรวมทั้งพรรครีพับลิกันสมัครแย่งตำแหน่งผู้นำจะมีขึ้นในปีถัดไป แม้กระนั้นเป็นที่เดาว่า จังหวะที่พรรคเดโมแครตจะเลือกผู้ท้าแข่งบุคคลอื่นเป็นผู้แทนพรรคนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น ทำให้มีความน่าจะเป็นไปได้ว่าการลงคะแนนเสียงผู้นำคราวนี้จะเป็นอีกทีนายไบเดน จะได้เจอหน้ากับอดีตกาลผู้นำโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นข้างปราชัยสำหรับเพื่อการลงคะแนนเสียงปี 2563 ดังนี้ นายไบเดน เป็นผู้นำสหรัฐอเมริกา ที่แก่สูงที่สุด ตั้งแต่แมื่อวันที่ประกอบพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง และก็ถ้าเกิดได้รับชัยสำหรับในการลงคะแนนเสียงปี 2567 นายไบเดน จะแก่ 82 ปีในวันที่เริ่มการทำงานยุคที่ 2

แนะนำข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  ตะลึง จีนเผยชุดภาพสี ‘ดาวอังคาร’ ทั้งดวงครั้งแรก

“เกาหลีใต้” ระดมกำลังเร่งดับไฟป่าใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

“ประเทศเกาหลีใต้” รวมกำลังรีบปิดไฟป่าใกล้โรงไฟฟ้าปรมาณู
อ่านข่าวสารให้ฟัง

เกาหลีใต้ 1

ข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ อ่านข่าวสารให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บไซต์แอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากใจความด้วย AI (Text to Speech)
ทางการประเทศเกาหลีใต้ รวมกำลังข้าราชการรีบปิดไฟป่าใกล้รอบๆโรงไฟฟ้าปรมาณู ฮานุล จังหวัดคยองซังเหนือ ในขณะที่ผู้นำ “มุนแจอิน” ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าเจ้าตารีบรีบช่วยเหลือประชากรในพื้นที่รวมทั้งคุ้มครองปกป้องไฟลุกลุกลามไปยังโรงไฟฟ้า นอกจากนั้น ทางการประเทศเกาหลีใต้รวมกำลังนักดับเพลิงในเขตแดน ข้าราชการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งหน่วยงานด้านป่าดง เพื่อรีบปิดไฟป่า และก็คุ้มครองปกป้องไม่ให้ไฟลุกลุกลามไปยังโรงงานกระแสไฟฟ้าปรมาณูที่มีเครื่องปฏิกรณ์แรงกดดันน้ำอยู่ 6 เครื่อง ปัจจุบัน บริษัท Korea Hydro & Nuclear Power Co. ได้ลดกำลังในการผลิตเครื่องปฏิกรณ์ปริมาณ 5 เครื่อง โดยใช้งานเพียงแต่ 50% เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แนะนำข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  WHO เผยเหตุปะทะในซูดาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 ราย

IMF เตือนระบบเศรษฐกิจ 1 ใน 3 ของโลกจ่อเผชิญภาวะ ‘ถดถอย’ ในปี 2023

คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

ข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ  เอ่ยเตือนวานนี้ (1 ม.ค.) ว่าเศรษฐกิจโลกราวๆ 1 ใน 3 จะเข้าสู่ภาวะถดถอย (recession) ในปี 2023 และพิษเศรษฐกิจปีนี้จะ “หนักหนาสาหัส” กว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) และจีน ซึ่งเป็น 3 ตัวจักรใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัวกอร์เกียวา ให้สัมภาษณ์ในรายการ Face the Nation ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสว่า “เราคาดว่าระบบเศรษฐกิจโลกราว 1 ใน 3 จะเข้าสู่ภาวะถดถอย… แม้แต่ประเทศที่เศรษฐกิจยังไม่ถดถอย แต่ประชากรหลายร้อยล้านคนก็จะรู้สึกเหมือนได้รับผลกระทบ”ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2023 เมื่อเดือน ต.ค. โดยพิจารณาจากปัจจัยลบ เช่น สงครามในยูเครน และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกต่างพยายามที่จะควบคุมราคาสินค้าไม่ให้พุ่งสูง

IMF เตือนระบบเศรษฐกิจ 1

อีกหนึ่งตัวแปรสำคัญก็คือการจีนยกเลิกนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” และหันมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

ข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงขึ้นอย่างไร้การควบคุมผอ.ไอเอ็มเอฟระบุว่า จีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกจะเผชิญ “จุดเริ่มต้นที่ยากลำบาก” ในปีนี้ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2022 จะ “เท่ากับ” หรือ “ต่ำกว่า” การเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีกอร์เกียวา ยังเตือนด้วยว่า ผลพวงจากสถานการณ์โควิด-19 ในจีนที่อาจลุกลามเป็น “ไฟป่า” ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า จะยิ่งมีส่วนซ้ำเติมและฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลก“ช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้จะเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับจีน” เธอกล่าวดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers Index : PMI) ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนการขยายตัวหรือหดตัวในภาคการผลิตและบริการประจำเดือน ธ.ค. แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมการผลิตของจีนหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และลดลงด้วยอัตราเร็วสุดในรอบเกือบ 3 ปี เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ข้อมูลจาก China Index Academy ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์อิสระของจีน พบว่าในเดือนเดียวกันราคาที่พักอาศัยใน 100 เมืองของจีนปรับตัวลดลงอีกเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในส่วนของสหรัฐฯ กอร์เกียวา มองว่าระบบเศรษฐกิจยังมีความแข็งแกร่งและพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดี (resilient) จึงมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงสภาวะถดถอยที่จะเกิดขึ้นกับประเทศต่างๆ ราว 1 ใน 3 ของโลกได้

แนะนำข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : หนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยตัดสินใจถึงการรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

รพ.เซี่ยงไฮ้เตือนบุคลากรเตรียม ‘รับศึกหนัก’ คาดคนติดโควิด ‘ครึ่งเมือง’ ภายในสิ้นปีฟ

โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนแจ้งเตือนบุคลากรให้เตรียมพร้อมเผชิญศึกใหญ่กับโควิด-19

ทันโลกข่าวต่างประเทศ หลังคาดการณ์ว่าประชากรเซี่ยงไฮ้ 25 ล้านคน อาจติดโควิด-19 ถึง “ครึ่งเมือง” ภายในสิ้นปีนี้เหตุประท้วงต้านล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นในหลายเมืองของจีน บวกกับยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เดือนนี้รัฐบาลจีนตัดสินใจผ่อนมาตรการคุมเข้ม “โควิดเป็นศูนย์” ที่ส่งผลกระทบทั้งในด้านเศรษฐกิจและสภาพจิตใจของประชากรจีน 1.4 พันล้านคนมาตลอด 3 ปีคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ยังมีการปรับคำนิยามผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เสียใหม่ ซึ่งทำให้ยอดผู้เสียชีวิตลดลงเป็น “ศูนย์” มาแล้ว 2 วันติด ขณะที่ตัวเลขสะสมตั้งแต่โควิดเริ่มแพร่ระบาดในจีนอยู่ที่ 5,241 ศพ สวนทางกับข้อมูลจากสถานที่จัดพิธีศพหลายแห่งที่ระบุว่ามีญาติๆ นำร่างผู้เสียชีวิตมาต่อคิวทำพิธีเพิ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วข้อมูลของทางการจีนวานนี้ (21) ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แสดงอาการรวมทั้งสิ้น 389,306 ราย

รพ.เซี่ยงไฮ้ 21

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าตัวเลขของทางการนั้น “ไม่น่าเชื่อถือ”

ทันโลกข่าวต่างประเทศ เนื่องจากการตรวจหาเชื้อลดลงมากนับตั้งแต่รัฐบาลเริ่มประกาศคลายล็อกโรงพยาบาลเซี่ยงไฮ้เต๋อจี้ (Shanghai Deji Hospital) ได้โพสต์ข้อความลงใน WeChat เมื่อค่ำวันพุธ (21) โดยประเมินว่าขณะนี้เซี่ยงไฮ้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วประมาณ 5.43 ล้านคน และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีประชากรเซี่ยงไฮ้มากถึง 12.5 ล้านคนที่ติดโควิด“คริสต์มาสอีฟ ปีใหม่ และเทศกาลตรุษจีน ถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่ปลอดภัย” ทางโรงพยาบาลระบุ“ในการต่อสู้อันน่าเศร้านี้ ผู้คนทั้งเซี่ยงไฮ้จะพ่ายแพ้ บุคลากรโรงพยาบาลทั้งหมดจะติดเชื้อ! ครอบครัวพวกเราทุกคนจะติดเชื้อ! คนไข้ของเราทั้งหมดจะติดเชื้อ! พวกเราไม่มีทางเลือก และไม่มีทางหนีด้วย”นครเซี่ยงไฮ้เคยอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดนาน 2 เดือนซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. โดยระหว่างนั้นมีผู้คนมากมายที่ต้องสูญเสียรายได้ ขาดแคลนปัจจัยยังชีพขั้นพื้นฐาน หลายร้อยคนเสียชีวิต และยังมีผู้ติดเชื้อนับแสนๆ คนในช่วงเวลาดังกล่าว

แนะนำข่าวทันโลกต่งประเทศ  อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย รัสเซีย ยูเครน : ประธานาธิบดีเซเลนสกี

บิ๊กทหารมะกันเตือนจีนเสี่ยงมหันต์หากบุกไต้หวัน ยกสงครามยูเครนตัวอย่างความผิดพลาดของปูติน

พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ

นายทหารใหญ่อเมริกาเตือนหากจีนโจมตีได้หวันจะถือเป็นความผิดพลาดด้านยุทธศาสตร์ที่เลวร้ายพอๆ กับการที่รัสเซียรุกรานยูเครน อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่า สีจิ้นผิง มีเหตุมีผล สามารถประเมินสถานการณ์ และตระหนักว่าการโจมตีไต้หวันในอนาคตอันใกล้มีความเสี่ยงสูงพล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธฯ (16) ว่า เขาคิดว่าการโจมตีไต้หวันไม่ใช่การกระทำที่ฉลาด แต่เป็นความผิดพลาดทางการเมือง ภูมิรัฐศาสตร์ และยุทธศาสตร์ เช่นเดียวกับความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก่อขึ้นในยูเครนกระนั้น มิลลีย์ไม่ได้ระบุว่า จีนกำลังจะโจมตีไต้หวันในเร็วๆ นี้ แต่เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่เพิ่งได้รับการรับรองเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 และประกาศว่า การรวมไต้หวันเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับต้นๆ ของจีนนั้นเป็นผู้นำที่มีเหตุผล

บิ๊กทหารมะกันเตือนจีน

มิลลีย์ คิดว่า สีจะประเมินต้นทุน ผลประโยชน์ และความเสี่ยงในทุกสิ่ง

และได้ข้อสรุปว่า การโจมตีไต้หวันในอนาคตอันใกล้มีความเสี่ยงสูง อีกทั้งจะจบลงด้วยหายนะของกองทัพจีน ซึ่งจะทำให้เป้าหมายในการผลักดันจีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและการทหารสะดุดประธานเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ สำทับว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งชะงักงันจากการต้านทานอย่างเข้มแข็งเกินคาดของเคียฟและอาวุธของตะวันตก คือบทเรียนที่ชัดเจนเขาแจกแจงว่า สิ่งหนึ่งที่ผู้คนกำลังเรียนรู้คือ สงครามในกระดาษเป็นคนละเรื่องกับสงครามจริงที่มีผู้คนล้มตาย รถถังระเบิด และเต็มไปด้วยอุปสรรคทางกายภาพต่อปฏิบัติการทางทหารและการที่ผู้บัญชาการขาดข้อมูลที่ชัดเจนมิลลีย์ตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพจีนไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการรบนับจากต่อสู้กับเวียดนามในปี 1979 นอกจากนั้น แม้กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนสามารถเปิดฉากโจมตีไต้หวันอย่างง่ายดายด้วยระเบิดและขีปนาวุธ แต่การบุกยึดเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาและมีประชากรหนาแน่นจะเป็นภารกิจทางทหารที่ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการข้ามช่องแคบและบุกขึ้นเกาะไต้หวัน ซึ่งทหารจีนไม่เคยมีประสบการณ์ หรือได้รับการฝึกฝนให้ทำภารกิจนี้มาก่อน

แนะนำข่าวทันโลกข่าวต่างประเทศ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : คืบหน้าคดียิงเครื่องบิน MH17 ตก ศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินลงโทษ 3 จำเลย

ต่อลมหายใจไบเดน!เดโมแครตยังครองเสียงข้างมากวุฒิสภา ทรัมป์โวยมีการโกง-โทษพวกเดียวกันเอง

พรรคเดโมแครตในวันอาทิตย์(13พ.ย.) ฉลองชัยชนะอันน่าตื่นตะลึง ยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ปล่อยให้รีพับลิกันตกอยู่ในภาวะระส่ำระสาย มอบพื้นฐานแรงสนับสนุนอันสำคัญยิ่งทั้งทางการเมืองและกฎหมาย แก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตลอดช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของวาระดำรงตำแหน่ง

ทันโลกข่าวต่างประเทศ แม้ชะตากรรมของสภาผู้แทนราษฏรยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน แต่การสามารถยังครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาเอาไว้ได้ในศึกเลือกตั้งกลางเทอม พรรคเดโมแครตสามารถตีความได้ว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของพวกเขา หลังจากก่อนหน้านี้หลายคนคาดเดาว่าพรรคเดโมแครตจะประสบความพ่ายแพ้แบบโดนทิ้งห่าง “ผมรู้สึกดี และตั้งตาคอยสำหรับ 2 ปีข้างหน้า” ไบเดน กล่าวขณะร่วมประชุมซัมมิตกับพวกผู้นำอาเซียนในกัมพูชาวุฒิสภาทำหน้าที่รับรองการแต่งตั้งคณะผู้พิพากษารัฐบาลกลางและคณะรัฐมนตรี และการมีสภา 100 ที่นั่งแห่งนี้อยู่ในมือ ถือเป็นประโยชน์ใหญ่หลวงสำหรับประธานาธิบดีไบเดน ในขณะที่เขาต้องเสาะแสวงหาหนทางรักษาวาระนโยบายทางการเมืองของตนเองให้อยู่บนเส้นทางปกติแล้วศึกเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ประชาชนมักปฏิเสธพรรคที่อยู่ในทำเนียบขาว และท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานกับคะแนนนิยมระดับต่ำของไบเดน พรรครีพับลิกันจึงคาดหมายว่าจะเกิด “คลื่นสีแดง” และกุมเสียงข้างมากในทั้ง 2 สภา ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนการตัดสินชี้ขาดสำหรับการควบคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันเสาร์(12พ.ย.) หลังสำนักข่าวต่างๆของสหรัฐฯ ชี้ว่า แคเทอรีน คอร์เตซ มาสโต ผู้สมัครจากเดโมแครต คว้าชัยในรัฐเนวาดา ส่งผลให้ทางพรรคเดโมแครต ได้เก้าอี้ 50 เสียงที่จำเป็นสำหรับครองเสียงข้างมาก

ต่อลมหายใจไบเดน!เดโมแครต

ด้วยที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส สามารถใช้สิทธิ์ออกเสียงได้ในกรณีผลโหวตในวุฒิสภาออกมาเสมอกัน 50-50 และศึกชิงชัยเก้าอี้วุฒิสภายังไม่สามารถตัดสินได้อีก 1 ที่นั่งในจอร์เจีย ซึ่งมีกำหนดเลือกตั้งรอบชี้ชะตาในวันที่ 6 ธันวาคม ดังนั้นทางพรรคเดโมแครตก็อาจเพิ่มเติมเสียงข้างมากของพวกเขาได้อีก

ทันโลกข่าวต่างประเทศ  อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหนึ่งในสมาชิกรีพับลิกันชื่อดังที่สุดที่ร่วมวงศึกรณรงค์หาเสียงตั้งกลางเทอมครั้งนี้ แต่ผลงานของทางพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้สมัครหลายคนที่เขาให้การรับรองเป็นการส่วนตัว ประสบความพ่ายแพ้ มันกำลังก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่เขาในส่วนของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏร ในวันอาทิตย์(13พ.ย.) อวดอ้างว่าพรรคเดโมแครตของเธอทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมเย้ยหยันผ่านซีเอ็นเอ็น ว่า “คลื่นสีแดง” รีพับลิกัน ที่คาดหมายโดยพวกผู้สันทัดกรณีและรีพับลิกันเอง พังครืนลงเหลือแค่เศษเล็กๆน้อยๆขณะเดียวกันทางรีพับลิกันต้องหันกลับมาพิจารณาความผิดพลาดต่างๆนานา ในความคาดหวังว่ากระแสลมทางการเมืองจะหวนคืนสู่พวกเขาอีกครั้งในศึกเลือกตั้งอีก 2 ปีข้างหน้าตามหลังการคาดการณ์ว่าเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ทาง จอช ฮาวลีย์ วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน เรียกร้องทางพรรคให้สร้างบางอย่างที่เป็นสิ่งใหม่ขึ้นมา “พรรคแบบเดิมๆตายแล้ว ถึงเวลาที่ต้องฝังมัน” เขาทวีตข้อความทรัมป์ ตอบโต้ด้วยการตอกย้ำคำกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐาน ว่ามีการโกงเลือกตั้ง โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์ม ทรัตช์ โซเชียล ว่าผลเลือกตั้งเป็นผลจากกลโกง และชี้นิ้วกล่าวโทษไปที่ มิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำรีพับลิกันในวุฒิสภา”มันเป็นความผิดพลาดของ มิตช์ แมคคอนเนลล์” เขาโพสต์ โดยอ้างว่าแกนนำจากเคนทักกีทำงานได้อย่างย่ำแย่ในการจัดสรรงบหาเสียงและเสาะหาข้อบกพร่องในวาระทางกฎหมาย “เขาทำลายศึกเลือกตั้งกลางเทอม ทุกๆคนดูถูกเขา” ทรัมป์กล่าว ทั้งนี้ ทรัมป์ มีปัญหาทะเลาะวิวาทกับ แมคคอนเนลล์ มานานแล้วรีพับลิกันยังคงถูกยกว่าท้ายที่สุดแล้วจะกุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏร แต่เสียงข้างมากดังกล่าวถือกว่าน้อยกว่าอย่างมาก