ทำดีไม่เกี่ยวกับอายุ! เปิดใจ ‘จิตอาสาเด็ก’ อยากช่วยประชาชนตามรอยในหลวง

ทำดีไม่เกี่ยวกับอายุ! เปิดใจ ‘จิตอาสาเด็ก’ อยากช่วยประชาชนตามรอยในหลวง

เด็ก  โค้งสุดท้ายของการเข้ากราบถวายบังคมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตอนวันที่ เดือนตุลาคม 2560 ผ่านมา ไทยเมืองออนไลน์ ได้โอกาสได้ร่วมสัมผัสบรรยากาศครั้งประวัติศาสตร์ พบว่าผู้คนจากทั่วทุกที่ต่างหลั่งไหลเข้ามายังสนามหลวงโดยตลอดไม่ขาดระยะ เวลาที่ผู้คนมารต่อคิวเพื่อเข้าไหว้พระบรมศพอย่างทรหดอดทน จนกระทั่งสามารถเข้าไปกราบข้างหน้าพระบรมหีบศพจนถึงเสร็จ ทราบไหมว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของการยืนต่อแถวรอคอยคิวนานหลายชั่วโมงได้อย่างง่ายดายนั้น มีฝูงคนที่รอปฏิบัติภารกิจอำนวยความสะดวกให้พสกนิกรที่มาต่อคิว ให้พอใช้ได้คลายหิว คลายความเหน็ดเหนื่อย และก็ยังไม่ต้องลุกไปทิ้งขยะนอกแถวอีกด้วย พวกเรากำลังกล่าวถึง กรุ๊ปจิตสมัครใจ ที่พร้อมปฏิบัติดีเพื่อบิดา และไม่ใช่เพียงแค่จิตสมัครใจคนแก่แค่นั้น แต่ว่ายังมี จิตสมัครใจเด็ก หลายกรุ๊ปที่เต็มอกเต็มใจเดินทางมาปฏิบัติภารกิจช่วยเก็บขยะรักษาความสะอาดบริเวณรอบๆสนามหลวง 1. จิตสมัครใจเด็ก สถานที่เรียนแขนปกป้องเรียนรู้ ถ้าเกิดคุณเดินทางมายังสนามหลวงในตอนโค้งสุดท้ายของการเข้าไหว้พระบรมศพ คุณจะเห็นภาพจิตสมัครใจผู้คนจำนวนมาก แจกของกิน แจกของหวาน และก็เครื่องดื่มด้วยความเต็มใจ ข่าวเด็ก  ด้วยความภูมิใจสำหรับในการปฏิบัติดีเพื่อพ่อหลวง ซึ่งเหล่าจิตสมัครใจมิได้มีเพียงแค่คนแก่เพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังรวมทั้งเหล่าเด็กตัวน้อยที่มาร่วมเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งสำหรับในการทำจิตสมัครใจคราวนี้ด้วย พวกเราได้ได้โอกาสเข้าไปคุยกับเด็กไทยหัวใจต้องการปฏิบัติดีเพื่อบิดา กรุ๊ปน้องๆจิตสมัครใจ จากสถานศึกษามือป้องกันเรียนรู้ ต้องการรู้จริงๆว่าเพราะเหตุใดเด็กถึงต้องการมาปฏิบัติงานจิตสมัครใจนี้ ถึงแม้ว่ามิได้กำเนิดทันในยุคพระเจ้าแผ่นดิน ราชการทรงงานหนักเพื่อราษฎรคนประเทศไทย แม้กระนั้นเด็กพวกนี้ก็ยังมีจิตใจที่พร้อมจะทำความดีสะกดรอยพระเจ้าอยู่หัว ราชการ9 หนึ่งในผู้แทนของกรุ๊ปจิตสมัครใจ สถานที่เรียนมือปกป้องเรียนรู้ กล่าวว่า พวกหนูพึ่งมาเป็นจิตสมัครใจกันคราวแรกจ้ะ ที่ผ่านมายังไม่มีช่องทาง แต่ว่าคราวนี้เพียงพอได้โอกาสก็จับกลุ่มกับสหายมาอำนวยความสะดวกให้ประชากรที่สนามหลวง กรุ๊ปพวกหนูมีความตั้งอกตั้งใจไว้ว่าจะมาดำเนินการสมัครใจในงานช่วยเก็บขยะบริเวณสนามหลวงให้สะอาด ได้โอกาสก็ต้องการดำเนินการสมัครใจที่ตรงนี้ไปเรื่อยจ้ะ

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : EDF ชักชวนบริจาคทุนเด็กไม่ค่อยได้รับโอกาศ

‘เด็กทำร้ายเด็ก?’ ต้นเหตุคือ ‘สังคมแย่

“ความรุนแรง” นั้น “เกิดซ้ำ-เกิดบ่อย ๆ”

ข่าวเด็ก  ทั้งนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีเหตุการณ์ลักษณะนี้ 2 เหตุการณ์ในเวลาใกล้เคียงกัน มีทั้งกรณีเด็กนักเรียนหญิง ม.2 ถูกเพื่อนนักเรียนชายรุมข่มขืน และกรณีกลุ่มเด็กวัยรุ่นรุมทำร้ายเด็กนักเรียน ม.3 จนบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นไตและม้ามฉีก โดยทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคมไทยอย่างมาก ซึ่ง 2 เหตุการณ์นี้แม้จะต่างกรณีแต่ก็มีจุดเหมือนกัน คือ “ฉายภาพปัญหาเด็ก” ที่ “ซับซ้อนยิ่งขึ้น” และเกิด “ปุจฉา” ว่า “ไทยไร้กลไกแก้??” เกี่ยวกับ “ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก” นั้น ปัญหานี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็ติดตามและสะท้อนต่อสังคมไทยต่อเนื่อง ซึ่งนี่ถือเป็น “ปัญหาสังคมที่สำคัญ” หลังมีแนวโน้มความเสี่ยงที่ “เด็กไทยมีโอกาสเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้น” ทั้งจากการถูกผู้ใหญ่ทำร้าย และ “เด็กทำร้ายเด็กด้วยกันเอง” ซึ่งดูเหมือนกรณีหลังนี้จะมีตัวเลขพุ่งสูงขึ้นจนมาแรงไล่หลังกรณีแรก ดังจะเห็นได้จาก “ปรากฏการณ์เด็กร้ายต่อเด็ก” ที่ปรากฏเป็นข่าวครึกโครมในสังคมไทยอยู่เป็นระยะ ๆ ซึ่งสำหรับตัวเลขกรณีนี้ ก็มีสถิติน่าสนใจจากทาง กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้เคยเผยถึงตัวเลข “เด็กตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง” ไว้ว่า… “เด็กถูกทำร้ายที่เข้าโรงพยาบาล” นั้น… มีรายงาน “ปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 คน

1

ขณะที่อีกแหล่งข้อมูลระดับนานาชาติ อย่าง องค์การยูนิเซฟ เคยเผยตัวเลข “เด็กถูกทำร้าย” ทั่วโลก

ข่าวเด็ก ไว้ว่า… แต่ละปีจะมีเด็กในอัตราเฉลี่ย 4.2 คนใน 100 คน เป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรง ทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ และทางเพศ นี่ยิ่งสะท้อนว่า “เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่”โดย “เด็กไทยก็เป็นเหยื่อปีละไม่น้อย!! ทั้งนี้ กล่าวสำหรับปัญหา “ความรุนแรงกับเด็กไทย” ที่สังคมตั้งคำถามหนักมากว่า…ดูเหมือนไทยจะยังไม่มีกลไกใดที่จะใช้แก้ปัญหานี้ได้??? ปัญหานี้เกิดขึ้นวนเวียนเป็นวังวนไม่จบสิ้น…โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง…ซ้ำยังหนักขึ้นเรื่อย ๆ… กับเรื่องนี้ทางผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ได้วิเคราะห์และฉายภาพปัญหานี้ผ่านทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาว่า… ความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในเด็กไทยในยุคปัจจุบันนี้ มี “ปัจจัยเกิดจากสภาพสังคมไทยที่ย่ำแย่ลงทุกวัน!!!” ที่ดูเหมือนว่า “ปัญหาความรุนแรงในเด็ก” นั้น… ปัญหาระหว่าง “เด็กกับเด็กด้วยกัน”… ก็ดูจะไร้ทางจะยุติ-ทำให้ลดลงไม่ได้?? ทาง รศ.นพ.สุริยเดว ผอ.ศูนย์คุณธรรม ยังสะท้อนกับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ถึงเรื่องนี้ต่อไปว่า… เวลานี้หนทางที่จะทำให้ปัญหาเรื่องนี้ยุติ หรือช่วยทำให้ปัญหานี้ลดน้อยลงจากเดิมได้นั้น ส่วนตัวยอมรับความจริงว่า…เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากในขณะนี้ โดยส่วนหนึ่งที่ทำให้การแก้ไขปัญหาทำได้ยากขึ้นนั้น เกิดจากสภาพสังคมไทยวันนี้ที่ย่ำแย่ลงกว่าในยุคอดีต อีกทั้งการที่สถาบันครอบครัวไทยในปัจจุบันแปรสภาพเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น หรือต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกันมากขึ้น ก็จึงทำให้ “ขาดการมอนิเตอร์จากชุมชน” ส่งผลให้ “เด็ก ๆ ที่มีแนวโน้มจะถูกทำร้าย ขาดโอกาสจากการได้รับการปกป้อง” “เมื่อชุมชนถูกผลักออกจากสถาบันครอบครัว จะทำให้เด็กยิ่งมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงง่ายขึ้น อีกทั้งเด็กไทยวันนี้ขาดการร่วมกิจกรรมชุมชน เพราะใช้ชีวิตติดจอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ ทำให้ชุมชนไม่มีโอกาสจะคอนเนกต์กับเด็กได้ ทำให้เมื่อเกิดปัญหา กว่าจะช่วยได้ทัน บางทีก็สายไป” …ผอ.ศูนย์คุณธรรม ระบุถึงปัจจัย ก่อนจะสะท้อน “อีกมุม” ว่า… อีกปัจจัยที่ก็อาจทำให้ปัญหาความรุนแรงในเด็กเพิ่มขึ้น ก็คือจากการที่ “เด็กขาดต้นแบบที่ดี” “สภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเด็กวันนี้ เพราะเด็กซึมซับมาจากสิ่งที่เขาเห็น จะจากครอบครัวหรือจากสื่อก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่เด็กจะไม่ทำกับพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้าน จะไปปล่อยกับเด็กด้วยกันหรือสังคมข้างนอกมากกว่า เพราะทำได้ง่ายกว่า” …ทาง รศ.นพ.สุริยเดว ระบุและว่า… แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าปล่อยให้ “เด็กเสพติดความรุนแรง” ไปเรื่อย ๆ เด็กก็จะยิ่งขาดความยับยั้งชั่งใจ มองเป็นเรื่องธรรมดาจากการที่ใช้ความรุนแรงจนชิน และเมื่อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ที่สุดก็จะวกกลับมาใช้ความรุนแรงกับครอบครัว เนื่องจากใช้ความรุนแรงจนเคยชิน เพราะเคยชิน ก็จะยิ่งเสพติดความรุนแรง…

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : เสียงแตก ยกเลิกระเบียบ ไว้ทรงผมนักเรียน โยนให้โรงเรียนออกกฎเอง

จก.กช. เปิดค่ายภาณุรังษี OPEN HOUSE ร.ร.กองทัพบกอุปถัมภ์ จัดงานวันเด็ก

จก.กช. เปิดค่ายภาณุรังษี OPEN HOUSE ร.ร.กองทัพบกอุปถัมภ์ จัดงานวันเด็ก

เด็ก “จก.กช.” ควงแม่บ้านทหารช่าง เปิดค่ายภาณุรังษี จัดกิจกรรมงานวันเด็ก พร้อมเปิดบ้าน OPEN HOUSE โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ มิติใหม่ หนึ่งวิชาการ หนึ่งกีฬา หนึ่งดนตรี และศิลปะ เน้นนักเรียนจะได้ความรู้ มีความสุขในการเรียน เมื่อวันที่ 15 ม.ค.66 โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ โยธินวิทยา ค่ายภาณุรังษี อ.เมืองราชบุรี กรมการทหารช่าง ได้จัดกิจกรรมงานวันเด็ก OPEN HOUSE เปิดบ้าน โรงเรียน กองทัพบกอุปถัมภ์ “โยธินวิทยา” มิติใหม่ หนึ่งวิชาการ หนึ่งกีฬา หนึ่งดนตรี และศิลปะเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงได้ อย่างมีความสุขโดยมี พล.ท.ไพรัช โอฬารไพบูลย์ เจ้ากรมการทหารช่าง พร้อมด้วย คุณฉัตรวรุณ โอฬารไพบูลย์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากรมการทหารช่าง เป็นประธานในงานพร้อมด้วยเด็กๆ นักเรียนจากโรงเรียน กองทัพบกอุปถัมภ์ “โยธินวิทยา”, ครู ผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชน และเยาวชน รอบๆ ค่าย เข้าร่วมกิจกรรมงานในครั้งนี้ โรงเรียน กองทัพบกอุปถัมภ์ “โยธินวิทยา” มิติใหม่ หนึ่งวิชาการ หนึ่งกีฬา หนึ่งดนตรี และศิลปะเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงได้อย่างมีความสุข บนความร่วมมือ โรงเรียนสามพี่น้อง สองหน่วยงาน ร่วมมือพัฒนาการศึกษานักเรียน โรงเรียน กองทัพบกอุปถัมภ์ “โยธินวิทยา” หนึ่งวิชาการ เสริมทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ข่าวเด็ก จากครูโรงเรียนอนุบาลราชบุรี เสริมการเรียน Coding บังคับหุ่นยนต์ และพื้นฐานการบังคับโดรน จากครูโรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ช่วงสุวนิช), หนึ่งกีฬา โดยครูสอนทักษะการว่ายน้ำในสระว่ายน้ำมาตรฐาน, มีโปรกอล์ฟจิตอาสาสอนทักษะกีฬากอล์ฟสร้างแรงบันดาลใจ และโค้ชภาณุรังษีฟุตบอลอะคาเดมี่, หนึ่งดนตรีและศิลปะ เสริมพรสวรรค์ทางด้านดนตรี การขับร้อง การเล่นคีย์บอร์ด และกลองชุด จากพี่ๆ ดุริยางค์ จิตอาสา มลฑลทหารบกที่ 16 นักเรียนทุกคนจะได้รับความรู้ทางวิชาการ มีความสุขในการเรียนด้วยการเสริมทักษะด้านกีฬา ดนตรีและศิลปะ เพื่อพัฒนาศักยภาพทางร่างกาย สติปัญญา และพรสวรรค์ เตรียมพร้อมเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมชั้นนำที่มีชื่อเสียง

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : รัฐบาลห่วงเด็ก-เยาวชนเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ เตือนผู้ปกครองดูแลใกล้ชิด

ส.ส.พปชร. ช่วยเด็กวัย 5 ขวบ ถูกแม่เมาสุราทุบตี ก่อนวิ่งหนีออกจากบ้าน

ส.ส.พปชร. ช่วยเด็กวัย 5 ขวบ ถูกแม่เมาสุราทุบตี ก่อนวิ่งหนีออกจากบ้าน

 เด็ก “ส.ส.ฐิติภัสร์” ประสาน พม.-ตร. ช่วยเด็ก 5 ขวบหนีออกจากบ้าน หลังถูกแม่ตี พบติดสุราเรื้อรัง คุมตัวเองไม่ได้ เบื้องต้นทำข้อตกลงให้ป้าดูแล ก่อนนำตัวแม่ส่งบำบัดสัปดาห์หน้า วันที่ 15 เมษายน 2565 จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยในกรุงเทพมหานครเข้าช่วยเหลือหนูน้อย อายุเพียง 5 ขวบ ใส่ชุดโกโกวาหนีออกจากบ้านมาอยู่ภายในซอยรามคำแหง 39 สอบถามหนูน้อยบอกว่าน้อยใจแม่ที่ทุบตีเธอ หลังร้องหิวข้าว ขณะที่ญาติๆ พากันเอือมระอาผู้เป็นแม่ วอนเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลนั้น ล่าสุด น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ ประสานเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และตำรวจ สน.วังทองหลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของเด็กวัย 5 ขวบ พบว่า แม่ของเด็กซึ่งข้อเท็จจริงคือยาย มีอาการติดสุราเรื้อรัง เวลาเมาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และทำร้านทุบตีน้อง เนื่องจากน้องงอแงและซนตามประสาเด็ก เด็กจึงหนีออกจากบ้านไปตามหาพ่อ ซึ่งคือตา แต่ตัวคุณตาไปต่างจังหวัด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไปพบตัวน้องจึงพาไปโรงพักและส่งกลับบ้านเมื่อช่วงเช้า เบื้องต้นทาง พม.ต้องการให้น้องวัย 5 ขวบอยู่ในความดูแลของ พม. แต่ทางญาติ คือ ป้าศรี ป้าของน้อง  ข่าวเด็ก ยืนยันจะดูแลน้องเอง จึงให้ทำข้อตกลงว่าให้น้องวัย 5 ขวบอยู่ในความดูแลของป้าศรีชั่วคราว ไม่ให้แม่ ซึ่งก็คือยาย เข้ามาดูแล แล้วหากมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเด็กเกิดขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ พม.จะมารับตัวเด็กไปดูแลทันที รวมทั้งให้ทางญาติประสานขอสูติบัตร ซึ่งทราบว่าอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด นำกลับมาที่ กทม. เพื่อให้เด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาและสิทธิต่างๆ ที่พึงได้รับ น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้น้องวัย 5 ขวบ มีอาการร่าเริง แจ่มใสดี แต่หากพูดถึงแม่ น้องจะมีอาการงอแง เพราะน้องไม่อยากอยู่กับแม่ น้องติดพ่อซึ่งคือตา เพราะใจดี นอกจากนี้ตำรวจได้ส่งตัวน้องไปตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาลตำรวจแล้ว หากพบว่ามีการทำร้ายร่างกาย แม่ก็จะถูกดำเนินคดีในส่วนนี้ด้วย สำหรับอาการติดสุราเรื้อรังของผู้เป็นแม่นั้น น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุว่า ในสัปดาห์หน้าตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ พม.จะประสานไปที่สาธารณสุขลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อนำแม่เด็กเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป เพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : เด็ก18 ปี ฆ่าเด็ก14 ปี คาดปมไม่พอใจไปสนิทกลุ่มอริ

กรมอนามัย วอนพ่อแม่คุมเข้ม เด็กเมินแปรงฟัน สาเหตุทำให้เกิดฟันผุ

กรมอนามัย วอนพ่อแม่คุมเข้ม เด็กเมินแปรงฟัน สาเหตุทำให้เกิดฟันผุ

 เด็ก นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงที่อากาศเริ่มหนาวขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิในน้ำเย็นขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะช่วงเช้าของการแปรงฟันในเด็กเล็กเมื่อผิวฟันสัมผัสน้ำเย็นอาจจะมีอาการเสียวฟันได้ ทำให้เด็กไม่อยากแปรงฟันในเวลาต่อมา พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องฝึกวินัยให้กับเด็กโดยควบคุมดูแลการแปรงฟันในตอนเช้า และก่อนนอนเพื่อป้องกันฟันผุอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจากข้อมูลสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ปี 2563 พบว่า ในเด็กอายุ 3 ปี จะแปรงฟันตอนเช้าก่อนมาโรงเรียนร้อยละ 86.8 มีผู้ปกครองแปรงให้ร้อยละ 42.5 เมื่อเด็กอายุ 5 ปีจะแปรงฟันด้วยตนเองมากขึ้น และผู้ปกครองส่วนใหญ่จะแปรงซ้ำให้อีกครั้ง จะเห็นได้ว่าพ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นตัวช่วยสำคัญในการแปรงฟัน นอกจากนี้ ควรควบคุมการกินอาหารของเด็กในแต่ละวันด้วย โดยหลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด  ข่าวเด็ก อาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่เป็นสาเหตุสำคัญก่อให้เกิดฟันผุ และอย่าลืมพาเด็กไปพบทันตแพทย์ปีละ 1-2 ครั้ง ซึ่งการไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่เด็กจะสร้างความคุ้นชินและได้รับคำแนะนำวิธีทำความสะอาดฟันที่ถูกต้องและเหมาะสมตามวัยด้าน ทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า วิธีการแปรง ในเด็กสามารถปฏิบัติได้ง่ายโดยเลือกใช้แปรงสีฟันที่ขนอ่อนนุ่ม และแปรงด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แปรงทุกซี่ ทุกด้าน นาน 2 นาที เพื่อให้ฟลูออไรด์ไปจับที่ผิวฟันช่วยในกระบวนการป้องกันฟันผุ วางขนแปรงตั้งฉากกับผิวฟันแล้วถูไปมาในแนวขวาง ขยับไปมาสั้นๆ แล้วจึงเลื่อนแปรงไปที่ซี่ถัดไป หลังจากนั้นบ้วนน้ำและล้างแปรงสีฟันด้วยน้ำสะอาด สิ่งสำคัญไม่ควรกินอาหารหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง รวมถึงพ่อแม่ ผู้ปกครองอาจทำให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง หรือแปรงฟันพร้อมกับเด็กเพื่อสร้างนิสัยให้เกิดความเคยชินในการแปรงฟัน

แนะนำข่าวเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : เด็กอนุบาลล้มในห้องเรียน กลับบ้านมาเสียชีวิต รร.จ่าย 2 หมื่น 

 

คลิปหลุดมูลนิธิดังทำร้ายเด็ก “ครูยุ่น” อ้างแค่ลงโทษ ล่าสุดเด็กขอลาออกเกินครึ่ง

บิ๊กโจ๊ก ตรวจสอบมูลนิธิดัง หลังมีคลิปทำร้ายเด็ก ทางด้าน “ครูยุ่น” อ้างแค่ลงโทษ สั่งสอนให้หลาบจำ ล่าสุดเด็กทนไม่ไหวลาออกเกินครึ่ง

เด็ก  จากกรณีที่มีคลิปถูกนำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียลโดยกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่ง พร้อมทั้งระบุว่า คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 5 นาที ที่เห็นนี้ เป็นภาพเด็กจำนวน 7-8 คน อายุตั้งแต่ 10-17 ปี กำลังถูกครูเจ้าของมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งหนึ่งภายใน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ลงโทษโดยการเฆี่ยนตี และยังมีลักษณะพฤติกรรมใช้คำหยาบคาย เดินไป เดินมา ลงโทษเด็กซึ่งคลิปที่เผยแพร่มีเด็กในมูลนิธิแอบถ่าย และส่งให้นักศึกษาที่ไปทำกิจกรรมเลี้ยงอาหารที่มูลนิธิ ให้ช่วยเหลือ โดยมีการส่งต่อมาให้สื่อมวลชน นำเสนอให้กับประชาชนทั่วไปทราบถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในมูลนิธิดังกล่าวนี้ทำให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ต้องสั่งการสั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศพดส.ตร. เร่งสืบสวน ให้การช่วยเหลือ และติดตามคดีที่เกิดขึ้นโดยทันที เนื่องจากเหตุการณ์นี้กระทบกับความรู้สึกต่อประชาชน และเกรงว่าหากยิ่งเวลานานไปอาจเกิดอันตรายกับเด็กมากกว่านี้โดย โดยขอให้เร่งให้การช่วยเหลือเด็กออกมาก่อน และสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยด่วนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงได้เชิญผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามมาชี้แจงรายละเอียดที่เกิดขึ้นพร้อมกับให้นำหลักฐานที่เผยแพร่อยู่ในสื่อมวลชนมาตรวจสอบ จากนั้นได้สั่งกำชับให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือเด็กออกมาจากสถานที่ให้เร็วที่สุดโดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าไปตรวจสอบและนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นภาพคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดหรือคำให้การของผู้ที่ถูกทำร้าย

มาสรุปเป็นรายงานและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องโดยเร็วโดยกำชับให้เร่งเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และย้ายเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง ไปให้ความคุ้มครองทุกคน โดยจะนำเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อ ต่อหน้าสหวิชาชีพ

เด็ก ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า ที่มูลนิธิแห่งนี้ มีเด็กอยู่ในความดูแลของมูลนิธิประมาณ 54 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ พมจ.สมุทรสงคราม ได้เข้าช่วยเหลือเด็กที่ถูกทำร้ายออกมา จนขณะนี้เหลือเด็กที่ยังพักอาศัยอยู่ในมูลนิธิเพียง จำนวน 21 คนซึ่งจากการสอบถามเด็กให้การว่า ถูกทำร้ายจริง โดยนายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น อายุ 54 ปี เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก (บ้านครูยุ่น) ได้ทำร้ายเฆี่ยนตี ด่าทอ และ อ้างว่าทำไปเพราะเด็กมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มีการนำยาเสพติดมาใช้เสพในมูลนิธิ และบางคนชักชวนเด็กเล็กที่ว่ายน้ำไม่เป็น ลงเรือพายเรือเล่น จึงได้มีการเฆี่ยนตีเพื่อให้หลาบจำนอกจากการทำร้ายร่างกายแล้วการสอบสวนยังพบว่าที่มูลนิธิแห่งนี้ ยังมีพฤติการณ์ในการจ้างแรงงานเด็กต่ำกว่าสิบห้าปี ทำงานที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งภายใน จ.สมุทรสงคราม โดยเด็กจะได้รับค่าจ้างวันละ 30 บาท เป็นค่าตอบแทน แต่ไม่พบว่ามีการบังคับเฆี่ยนตีหากไม่ทำงาน ซึ่งมีเด็กบางส่วนทนพฤติกรรมของครูยุ่นไม่ไหว ได้หลบหนีออกจากมูลนิธิไปแล้วโดยตำรวจ จะดำเนินคดีกับครูยุ่น ผู้ต้องหา โดยกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และใช้แรงงานเด็ก ซึ่งใช้เวลาในการสอบสวนกว่า 6 ชั่วโมงซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ประกันตัวโดยไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์เนื่องจากไม่พบพฤติกรรมหลบหนี

แนะนำเด็ก อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : Long COVID วัยรุ่นมีปัญหามากกว่าเด็กเล็ก เผย 3 อาการผิดปกติพบบ่อยที่สุด

ยาน้ำเชื่อมแก้ไอมรณะ พ่อแม่อินโดนีเซียจี้ทางการรับผิดชอบหลังลูกน้อยเสียชีวิต

อากุสตินาต้องสูญเสียลูกสาวเพียงคนเดียวไปด้วยอาการไตวายหลังให้กินยาน้ำเชื่อมแก้ไอที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอล

ข่าวเด็ก ตอนที่หนูน้อยนาดีราล้มป่วยด้วยอาการไอและไข้หวัดใหญ่ อากุสตินา มาอูลานี ผู้เป็นแม่ได้ซื้อยาน้ำเชื่อมแก้ไอที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลให้เธอจากศูนย์อนามัยแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงจาการ์ตาอากุสตินาเล่าให้บีบีซีฟังว่า “ฉันให้ลูกกินยาทุก 4 ชั่วโมง เพราะไข้ของเธอไม่ยอมลด แม้ลูกจะมีอาการดีขึ้น แต่ไข้ก็กลับมาอีก ท้ายที่สุดลูกก็หยุดถ่ายปัสสาวะ”หลังจากนั้น นาดีราถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่อาการไม่ดีขึ้น ผลตรวจค่าไตจากห้องแล็บบ่งชี้ว่าเธอมีระดับสารยูเรียและครีอาตินีนสูงเกินค่ามาตรฐาน สารทั้งสองชนิดเป็นของเสียที่สะสมในร่างกายเมื่อไตหยุดทำงาน”ในที่สุดลูกก็เสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว และความเจ็บปวดทรมานนั้นก็น่าตกใจมาก” อากุสตินาเล่าให้บีบีซีฟังพร้อมน้ำตาพ่อแม่ใจสลาย หลังลูกเสียชีวิตเพราะกลืนถ่านใส่ของเล่นลงคอ ทำไมโรงเรียนควรสอนเด็กเล็กเอาชีวิตรอดจากการติดในรถ หลังเกิดเหตุสลดซ้ำซาก MIS-C อาการป่วยที่พบในเด็กหลังหายจากโควิดในหลายประเทศ อินโดนีเซียกำลังเผชิญคลื่นการเสียชีวิตที่น่าตกใจของเด็กอย่างน้อย 157 คน ที่เสียชีวิตไปในปีนี้ด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน (acute kidney injury) และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ โดยเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการใช้ยาที่มีสารปนเปื้อน โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุไม่ถึง 5 ขวบ

ยาน้ำเชื่อมแก้ไอมรณะ พ่อแม่อินโดนีเซีย

บรรดาร้านขายยาทั่วอินโดนีเซียต่างเก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกจากชั้นจำหน่ายสินค้า พร้อมแนะนำให้พ่อแม่ผู้ปกครองบดยาเม็ดให้ลูกหลานที่ล้มป่วยและจำเป็นต้องกินยา

ข่าวเด็ก นายบูดี กุนาดี ซาดีคิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียระบุว่า จากการตรวจสอบเด็กที่เสียชีวิตกลุ่มนี้พบว่าร่างกายมีสารอันตราย เช่น เอทิลีนไกลคอล, ไดเอทิลีนไกลคอล และเอทิลีนไกลคอล บิวทิว อีเทอร์สารไดเอทิลีนไกลคอล และเอทิลีนไกลคอลนั้น มักใช้เป็นส่วนผสมของสารป้องกันการเกิดน้ำแข็งในเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น รวมทั้งเป็นตัวทำละลายในผลิตภัณฑ์หลายชนิด เช่น เครื่องสำอาง แต่เป็นการใช้ในระดับความเข้มข้นที่ต่ำมาก องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ระบุว่า ต้องไม่นำสารเหล่านี้มาใช้เป็นส่วนผสมในยากรณีที่พบในอินโดนีเซียเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานการเสียชีวิตของเด็กเกือบ 70 คนในประเทศแกมเบีย โดย WHO ระบุว่า ตรวจพบปริมาณที่สูงเกินจะยอมรับได้ของสารไดเอทิลีนไกลคอล และเอทิลีนไกลคอลในยาน้ำเชื่อมแก้ไอผลิตในอินเดียที่ส่งไปขายในแกมเบียขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นใน 2 ประเทศมีความเกี่ยวข้องกัน โดยทางการอินเดียและบริษัทไมเดนฟาร์มาซูติคอลส์ ระบุว่ายาน้ำเชื่อมแก้ไอ 4 ชนิดที่มีปัญหานั้นส่งไปจำหน่ายที่แกมเบียเพียงประเทศเดียว ขณะที่ทางการอินโดนีเซียระบุว่า ยาน้ำเชื่อมแก้ไอที่วางขายในประเทศไม่ได้นำเข้าจากอินเดีย

แนะนำข่าวธุระกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : คลิปหลุดมูลนิธิดังทำร้ายเด็ก “ครูยุ่น” อ้างแค่ลงโทษ ล่าสุดเด็กขอลาออกเกินครึ่ง