เปิดตำนานบทใหม่ “เพียเจต์” ที่สุดแห่งการสร้างสรรค์นอกกรอบ

ซ้ำเติมความเป็นเจ้าที่การแต่งตั้งงานนอกกรอบเพื่อเป็นที่จำ ในงานนิทรรศการแสดงนาฬิกายิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ Watches and Wonders 2023 “เพียเจต์”

ข่าวออกแบบ บรรจงเขียนตำนานบทใหม่ไม่หยุดยั้ง โดยถือเอาความผู้ทรยศที่สร้างจุดเปลี่ยนแปลงให้กับแวดวงนาฬิกาแล้วก็จิวเวลรีตอนสมัย 1960s และก็ 1980s มาประสานลงบนแก่นกึ่งกลางของการแต่งตั้งเรือนเวลาชิ้นใหม่ สะท้อนจิตวิญญาณของแบรนด์ bold-distinctive-original ให้กับช่วงอย่างทรงประสิทธิภาพเพราะว่ายึดมั่นปรัชญา “To always do better than necessary” งานในแต่ละคอลเลกชันก็เลยแทรกสอดไปด้วยหัตถศิลป์อันละเมียด ไม่ว่าจะเป็น “goldsmithing” ความชำนาญของช่างทองในอเตลิเยร์ ที่นับว่าเป็นหัวใจหลักสำหรับในการประดิษฐ์ผลงานให้ออกมานอกกรอบแล้วก็เป็นที่น่าจำ, “ornamental stones” ที่ท้าตั้งแต่การสืบหาหินสีไปจนกระทั่งแบบการเจียระไน เพื่อรักษามู้ดแอนด์โทนของผลงานให้ไล่เรียงเฉดกันอย่างกลมกลืน, “high jewellery gem-setting” ขึ้นชื่อว่าเพชรนิลจินดา แต่ละประเภทก็ใช้วิธีที่แตกต่างกัน เว้นเสียแต่พิจารณาถึงฟังก์ชันรวมทั้งสุนทรียศาสตร์สำหรับการดีไซน์แล้ว ส่วนประกอบอย่างความเปราะบาง ความ โปร่งใส และก็ขนาด ก็จำต้องอาศัยเชิงชั้นของช่างไม่แพ้กันสำหรับปี 2023 เพื่อเป็นการแสดงความนับถือต่อศาสตร์ด้านกระบวนการทำทองคำที่บ่มเพาะมายาวนาน

เปิดตำนานบทใหม่ 1

เน้นย้ำเอาทองบิดเกลียวมารังสรรค์ ซึ่งกว่าจะก้าวหน้าไซน์แบบบิดเกลียวที่เหมาะเจาะกับงาน จะต้องใช้เวลาสำหรับในการขึ้นรูปแต่ละเส้นไม่น้อยกว่า 130 ชั่วโมง

ข่าวออกแบบ โดยช่างฝีมือจะเริ่มจากนำเส้นลวดทองมาพันรอบ mandrel เพื่อได้ลักษณะเป็นม้วนหลังจากนั้นเอามาบิดต่อด้วยมือครั้งละเส้น ก่อนถักทอแล้วก็ประกอบเข้าด้วยกัน “Limelight High Jewellery Cuff watch” นาฬิกาทรงกำไลในตำนาน นอกเหนือจากการที่จะประดับโดยการใช้ฮาร์ดสโตนหลายสีสันแล้ว ยังหลอมรวมศาสตร์ที่ทองไว้ด้วยด้วยเหมือนกันปัจจุบัน เพียเจต์ยังจับความสง่าผ่าเผยของ “Aura High Jewellery watch” มาถ่ายทอดอีกรอบ โดยเรียงร้อยความสวยสดงดงามของเพชรรวมทั้งแซฟไฟร์เข้าด้วยกัน ซึ่งเมซงใช้เวลากว่า 8 เดือนสำหรับการสืบเสาะหาแซฟไฟร์ เพื่อได้โทนสีน้ำเงินที่ไล่เฉดตามอยากได้ โดยแต่ละเม็ดฝังแบบ ultra-thin claw ไม่ปรากฏหนามเตย และก็ช่วยทำให้แสงสว่างส่องผ่านเพชรนิลจินดาเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพื่อส่งผลงานที่ส่องประกายระยิบอย่างไร้ที่ติเตียน

แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  Bangkok Design Week’จุดประกายนิวนอร์มอล‘เอเชีย’

รู้จัก ‘หน้าต่างอัจฉริยะ’ เปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม ช่วยประหยัดค่าไฟ

‘Liquid windows’ หรือ ‘หน้าต่างอัจฉริยะ’ เปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม ผู้ใช้งานสามารถควบคุมความสว่างของหน้าต่างได้ตามความต้องการ และยังช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย

ออกแบบ  นักวิจัยมหาวิทยาลัยโทรอนโต ประเทศแคนาดา ผุดไอเดีย “หน้าต่างอัจฉริยะ” หรือ “Liquid windows” ที่เปลี่ยนสีตามสภาพแวดล้อม เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน ปรับแสงสว่างให้เหมาะสมกับการใช้งาน และยังสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือนหน้าต่างดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเปลี่ยนสีของปลาหมึกในทะเล ทีมวิจัยใช้อุปกรณ์เลียนแบบการเคลื่อนไหวของปลาหมึก เช่น dye solutions, glycerol, และ ผงคาร์บอน โดยใส่ของเหลวต่าง ๆ ผ่านแผ่นอะคริลิกหลายแผ่นที่ถูกเชื่อมซ้อนเข้าด้วยกัน ซึ่งแต่ละแผ่นมีช่องขนาดเล็กสำหรับลำเลียงของเหลวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ของเหลวสามารถไหลผ่านเข้าออกจากช่องว่างของหน้าต่างแต่ละแผ่น เมื่อของเหลวที่มีเม็ดสีไหลผ่านช่องไหน หน้าต่างบานนั้นก็จะเกิดความสว่างและเปลี่ยนสีตาม

หน้าต่างอัจฉริยะ 6

เมื่อเปรียบเทียบกับหน้าต่างลดแสงตามท้องตลาด หน้าต่างอัจฉะริยะของทีมวิจัยม.โทรอนโต สามารถประหยัดพลังงานความร้อนได้ 75% ต่อปี

ออกแบบ  ประหยัดไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่างได้ 20% และป้องกันแสงอินฟราเรดจะสามารถช่วยลดพลังงานในอาคารลงประมาณ 25% แต่หากเป็นแสงจากธรรมชาติอาจสามารถลดพลังงานได้ถึงประมาณ 50% ต่อปีทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดการประหยัดพลังงาน โดยใช้หลักการควบคุมแสงสว่างที่ส่องเข้ามาภายในตัวอาคาร ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่ออุณหภูมิตัวอย่างเช่น อาคารในประเทศอากาศหนาวอาจต้องการแสงสว่างเพื่อให้ความอบอุ่นภายในตัวอาคารเพื่อลดการทำงานของเครื่องทำความร้อนในตัวอาคาร ขณะเดียวกันอาคารในประเทศอากาศร้อนอาจไม่ต้องการให้แสงส่องเข้ามาภายในตัวอาคารมากนักเพื่อลดการทำงานหนักของเครื่องปรับอาคาร

แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : รับทรัพย์วาเลนไทน์เดย์! ปลูกแตงโมรูปหัวใจ ขายได้แพงมาก 399 บาท/ลูก

ชนาพัฒน์ บ่มเพาะนักออกแบบรุ่นใหม่ ปลดปล่อยจินตนาการสู่นักออกแบบมืออาชีพ

ตอกย้ำการเป็นสถาบันปั้นนักออกแบบรุ่นใหม่ พร้อมก้าวเข้าสู่การสร้างแบรนด์ระดับมืออาชีพ

ข่าวออกแบบ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (CIDI Chanapatana) จัดงาน “CIDI ART THESIS AND DESIGN CARNI VAL 2022” ภายใต้ธีม TABULA RASA (Start Fresh) ปลดปล่อยจินตนาการ ลบล้างความทรงจำ ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด สู่การริเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ ผ่านการถ่ายทอดแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ปี 2022 จำนวนรวมกว่า 80 ชุด ผลงานจากนักศึกษาสาขาการออกแบบแฟชั่น ชั้นปีที่ 2 ที่สำเร็จการศึกษา พร้อมยลโฉมนิทรรศการการออกแบบของนักศึกษาสาขาการออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Interior & Product Design) เพลิดเพลินไปกับร้านขายสินค้าแฟชั่นกว่า 30 แบรนด์ดังของศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน พร้อมกิจกรรมฟรีเวิร์กช็อป ณ ลานโปรโมชัน ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์ เถกิง ออศิริชัยเวทย์ ผู้อำนวยการ CIDI กล่าวว่า สถาบันฯ มุ่งพัฒนานักออกแบบให้มีการสร้างสรรค์ผลงานบนพื้นฐานความคิดของเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่ขับเคลื่อนผ่าน Creative Economy และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดที่มีการเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ ส่วน สิทธิพัฒน์ ธนสารสิน ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน CIDI กล่าวว่า

ชนาพัฒน์ 11

ปัจจุบันวงการดีไซเนอร์ไทยมีความก้าวหน้าทางด้านการออกแบบที่มีความทันสมัย

ข่าวออกแบบ พัฒนาไปสู่ความเป็นสากลมากขึ้น เช่นเดียวกับที่ทางสถาบันออกแบบนานาชาติชนา พัฒน์เล็งเห็นถึงความสำคัญกับวงการออกแบบของประเทศไทย สู่เวทีการออกแบบในระดับนานาชาติ ตลอดจนบ่มเพาะนักออกแบบรุ่นใหม่ให้มีความพร้อมในอุตสาหกรรมออกแบบระดับโลก จึงได้มีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนจากอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของนักออกแบบไทย ภายในงานได้จัดการแสดงแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 รวมกว่า 80 ชุดโดยมีคอลเลกชันไฮไลต์จากนักศึกษามาร่วมถ่ายทอดผลงานในครั้งนี้ อาทิ “Cotton Granny” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความต้องการท้าทายความสิ้นเปลืองสู่การเกิดใหม่ที่เคยถูกลืม จนเป็นชิ้นงานใหม่ที่กลับมาสดใสมีชีวิตชีวา เป็นต้น และในส่วนของการแสดงผลงานศิลปนิพนธ์ของนักศึกษาสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ มีทั้งผลงานการออกแบบตกแต่งภายใน นอกจากนี้ ภายในงานเพลิดเพลินไปกับร้านขายสินค้าแฟชั่น ของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับจากศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันของสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์เกือบ 30 ร้านค้า และพิเศษกับกิจกรรมฟรีเวิร์กช็อปให้ได้ทดลองความเป็นนักออกแบบในตัวคุณ ณ ลานโปรโมชัน ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์

แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ออกแบบอย่างไร? ให้โดนใจคนจ้างงาน “นวัตกรรมการออกแบบ” ม.ศรีปทุม มีคำตอบ

ทันสมัยที่สุดในอาเซียน!!! “ส.ว่ายน้ำ เผยเตรียมแผนศูนย์กีฬาทางน้ำ รองรับซีเกมส์ปีค.ศ.2025

ทันสมัยที่สุดในอาเซียน!!! “ส.ว่ายน้ำ เผยเตรียมแผนศูนย์กีฬาทางน้ำ รองรับซีเกมส์ปีค.ศ.2025

ออกแบบ การกีฬาแห่งประเทศไทยเตรียมก่อสร้าง ศูนย์กีฬาทางน้ำ(aquatic center) ภายใน การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ในปี2025ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ คาดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 30 เดือน โครงการสร้างศูนย์กีฬาทางน้ำ(aquatic center) เป็นโครงการที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยกำหนดนโยบายให้เกิดโครงการนี้เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน คาดต้องใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างเป็นระยะเวลา 30 เดือน หากทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดจะส่งผลดีต่อนักกีฬาว่ายน้ำไทย ที่จะได้ฝึกซ้อมและทดสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ในสระแข่งขันจริงก่อนการแข่งขันจริงล่วงหน้า 3 เดือน โดยศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งนี้จะใช้ระบบอัตโนมัติทั้งหมดซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะถือว่าเป็นศูนย์กีฬาทางน้ำที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน และยังสามารถรองรับการจัดการแข่งขันกีฬาAquaticsในระดับโลกได้อีกด้วย พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลการเตรียมแผนงานออกแบบและก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งนี้ว่า “ศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งนี้จะเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณ การกีฬาแห่งประเทศไทย ขนาดกว้าง 100 เมตร ยาว 150 เมตร เป็นอาคาร 5 ชั้น สูง 40 เมตร ข่าวออกแบบ มีสระว่ายน้ำ 3 สระ คือ สระจำนวน10ลู่ว่าย ยาว50เมตร กว้าง 25 เมตร ลึก 3 เมตร,สระกระโดดกว้าง 25 เมตร ยาว 25 เมตร ลึก 5 เมตร และ สระซ้อม50×25เมตร ลึก3เมตรที่สามารถปรับระดับความลึกได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน” “นอกจากนี้ภายในอาคารจะมีระบบควบคุมอุณหภูมิ แสงสว่าง การรักษาความปลอดภัย การจัดการแข่งขันด้วยระบบอัตโนมัติทั้งในการปล่อยตัวและการจับเวลา นอกจากนั้นยังมีระบบประหยัดพลังงานได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการที่ไทยเรามีศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำแห่งนี้นับได้ว่าเป็นแห่งแรกของประเทศ และถือว่าทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียนแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ในการพัฒนาศักยภาพให้กับนักกีฬาไทยให้มากขึ้น รองรับการจัดการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มีความเป็นมาตรฐานระดับนานาชาติ รวมไปถึงการแสดงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ 2025 อีกทางหนึ่งด้วย” อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำ

แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : ย้อนสู่แก่นแท้และดีเอ็นเอของ DOLCE&GABBANA ผ่านเสื้อผ้าและเครื่องประดับ

Qurated X ICONCRAFT สานฝันนักออกแบบไทยสู่เวทีโลก

Qurated X ICONCRAFT สานฝันนักออกแบบไทยสู่เวทีโลก

 ออกแบบ ร่วมส่งเสริมนักออกแบบไทยที่มีศักยภาพ สยามพิวรรธน์ ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, กระทรวงพาณิชย์ (DITP) สานฝันนักออกแบบไทยสู่สากล ด้วยการนำโปรเจกต์พิเศษ Qurated×ICON CRAFT สร้างสรรค์แฟชั่นโชว์ในธีม Sawasdee KL คอลเลกชันมัลติแบรนด์ที่สวยงามและสุดพิเศษ ต่อยอดงานศิลป์ภูมิปัญญาไทยและขยายโอกาสสู่นานาชาติ เปิดตัวเป็นครั้งแรกให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าชาวมาเลเซียรู้จัก ภายในงานกัวลาลัมเปอร์แฟชั่นวีก เมื่อเร็วๆนี้ โครงการ Qurated ×ICONCRAFT เป็นโปรเจกต์ความร่วมมือด้านการบ่มเพาะดีไซเนอร์ชาวไทย (Qurated Fashion In cubation project) ระหว่าง ICONCRAFT ร่วมกับนักออกแบบชาวไทย และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, กระทรวงพาณิชย์ (DITP) โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ด้านแฟชั่นที่เป็นเอก ลักษณ์จากภูมิปัญญาไทย งานฝีมือที่มีความร่วมสมัย และความคิดสร้าง  ข่าวออกแบบ สรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ โดยบ่มเพาะแบรนด์และเจ้าของกิจการมาแล้วทั้งหมด 40 ราย สำหรับการสร้างสรรค์คอลเลกชัน Spring/Summer 2023 นักออกแบบมือใหม่จากทั่วประเทศได้รับการคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมเวิร์กช็อปที่เข้มข้น และครอบคลุมทั้งแฟชั่นเทรนด์ การวิเคราะห์ตลาด การสร้างแบรนด์ กระบวนการออกแบบคอลเลกชัน และการตลาดดิจิทัล โดยมีผู้เชี่ยวชาญและกูรูด้านแฟชั่นที่มีชื่อเสียงร่วมให้คำปรึกษาเพื่อให้แนวทางและคำปรึกษาแก่นักออกแบบแต่ละคน ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโปรเจกต์

แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : CONVERSE กำลังเติบโตผ่านรองเท้าดีไซน์ใหม่

ซัมซุงคว้า 46 รางวัลนวัตกรรม จากเวที CES 2020 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีระดับโลก

ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศรายชื่อ 46 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล CES 2020 Innovation Awards ซึ่งรวมถึงรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best of Innovations) จำนวน 3 รางวัล

ข่าวออกแบบ โดยรางวัลอันทรงเกียรตินี้มอบให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่นในด้านการออกแบบและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ได้แก่ ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 10 พลัส รุ่น 5G และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มจอแสดงผลอีก 2 รายการ รางวัลดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่สืบทอดมาอย่างยาวนานของซัมซุงในฐานะผู้พัฒนานวัตกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปข้างหน้า ซึ่งในปีนี้ ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงได้รับรางวัลครอบคลุมในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มจอแสดงผล, เกมมิ่ง, ซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ, เทคโนโลยีสมองกลฝังตัว, เทคโนโลยีเพื่อโลกอนาคต, ความยั่งยืน, ชิ้นส่วนและอุปกรณ์เครื่องเสียงและวิดีโอภายในบ้าน, ชิ้นส่วนและฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์ดูแลสุขภาพ, ฟิตเนส, กีฬาและไบโอเทค, อุปกรณ์สวมใส่, เครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์เสริม, อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และกลุ่มสมาร์ทโฮม “เรารู้สึกเป็นเกียรติและซาบซึ้งที่ได้รับรางวัลนี้อีกครั้ง เป็นความภาคภูมิใจที่ผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์อิเลคโทรนิคส์และดิจิทัลโซลูชั่นของซัมซุงได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้บริโภค และยังช่วยผลักดันขีดความสามารถของเทคโนโลยีไปอีกขั้น” มร. ยัง ฮุน ออม ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ อเมริกาเหนือ กล่าว “จำนวนผลิตภัณฑ์ของซัมซุงที่ได้รับรางวัลในงาน CES ในปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถระดับโลกของทีมงานซัมซุง ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์นวัตกรรมเหล่านี้” สำหรับรางวัล CES Innovation Awards ถูกจัดขึ้นโดย Consumer Technology Association (CTA)(TM) และผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของซัมซุงที่ได้รับรางวัลจะถูกจัดแสดงภายในงาน CES 2020 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7-10 มกราคม 2563 ณ ลาสเวกัส คอนเวนชันเซ็นเตอร์ นครลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์บางส่วนของซัมซุงที่ได้รับรางวัลมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ซัมซุง กาแลคซี่ โฟลด์ สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ที่สร้างนิยามใหม่ให้กับวงการโทรศัพท์มือถืออย่างแท้จริง มาพร้อมหน้าจอ Infinity Flex Display ขนาด 7.3 นิ้ว สามารถพับเป็นขนาดพกพาพร้อมจอด้านหน้าขนาด 4.6 นิ้ว มอบประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว โดดเด่นด้วยวัสดุรูปแบบใหม่และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย นำเสนอนวัตกรรมทรงพลัง ให้ผู้ใช้สามารถชมวีดีโอและใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้พร้อมกันแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 10 พลัส รุ่น 5G คว้ารางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยมในงาน CES 2020 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับประโยชน์จากการใช้งานบนเครือข่าย 5G โดยเฉพาะ มอบประสบการณ์สตรีมมิ่ง เล่นเกม และสร้างสรรค์ผลงานได้เต็มที่กว่าที่เคยด้วยปากกา S Pen รุ่นใหม่ ชุดกล้องระดับโปร และประสิทธิภาพที่เหนือชั้นบนเครือข่ายที่เร็วที่สุด ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 10 / โน้ต 10 พลัส – ผู้ใช้ กาแลคซี่ โน้ต ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาต้องการอุปกรณ์ที่ตอบรับการใช้งานที่หลากหลายบนไลฟ์สไตล์ที่ยืดหยุ่น สามารถเดินตามแพสชั่นและความท้าทายใหม่ๆ ได้ กาแลคซี่ โน้ต 10 และ โน้ต 10 พลัส

ซัมซุงกวาด 1

ช่วยมอบอิสระในการสร้างสรรค์ผลงาน มาพร้อมกับหน้าจอที่ดื่มด่ำเต็มอรรถรส ปากกา S Pen รุ่นใหม่ ชุดกล้องระดับโปรและสเปคที่ดีที่สุดไว้ในเครื่องเดียว ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 10 รุ่น 5G สมาร์ทโฟนแฟลกชิป 5G เครื่องแรกจากซัมซุง

ข่าวออกแบบ  มอบที่สุดแห่งประสบการณ์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ กล้อง และประสิทธิภาพของเครื่อง พร้อมรองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ที่รวดเร็ว โดดเด่นด้วยหน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสมาร์ทโฟนตระกูล กาแลคซี่ เอส สามารถถ่ายวิดีโอพื้นหลังโบเก้ได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเลนส์ 3D Depth Sensing และเทคโนโลยี ToF มาพร้อมแบตเตอรี่อัจฉริยะความจุ 4,500mAh สามารถเล่นเกมหรือสตรีมคอนเทนต์ได้อย่างเต็มที่ ด้วยประสิทธิภาพ 5Gอันทรงพลัง ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดซีรี่ส์เรื่องโปรดได้ในเวลาไม่กี่นาที หรือเล่นเกมกราฟฟิกสูงในระบบคลาวด์แบบไม่สะดุด เพลิดเพลินกับประสบการณ์ VR และ AR รวมไปถึงการใช้งานด้านอื่นๆ อีกมากมาย ซัมซุง กาแลคซี่ เอ 50 มาพร้อมทุกฟังก์ชั่นที่ผู้ใช้ต้องการในราคาที่เข้าถึงได้ อัดแน่นไปด้วยฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยมเพื่อตอบสนองรูปแบบการชีวิตของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพที่มาพร้อมเลนส์ Ultra Wide และเลนส์ชัดลึก หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ไปจนถึงแบตเตอรี่ทรงพลัง รองรับระบบชาร์จเร็ว สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน กาแลคซี่ วอทช์ แอคทีฟ 2 สมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุดจากซัมซุงที่ผสมผสานศักยภาพด้านการดูแลสุขภาพและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว มาพร้อมดีไซน์และฟีเจอร์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ โดยมีแอปพลิเคชัน Samsung Health เป็นหัวใจหลัก กาแลคซี่ วอทช์ แอคทีฟ 2 คอยรายงานข้อมูลการออกกำลังกาย การนอน และกิจกรรมอื่นๆ อย่างละเอียดเพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ อีกทั้งยังทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันและการบริการอื่นๆ ในอีโค่ซิสเต็มของซัมซุงได้อย่างง่ายดาย ลงตัวกับไลฟ์สไตล์การเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์แบบ Samsung Pay นวัตกรรมการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ที่ใช้งานง่าย คุ้มค่า และปลอดภัย โดยในปีนี้ Samsung Pay ได้รับการพัฒนาให้ผู้ใช้เข้าถึงและควบคุมกิจกรรมทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ใหม่อย่าง Tap&Pay[1] ทำให้การชำระเงินในชีวิตประจำวันอย่างค่าโดยสารรถไฟหรือรถบัสเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น ในขณะที่บริการอื่นๆ อย่าง Samsung Pay Cash และ Money Transfer โดย Travelex ช่วยให้สามารถโอนเงินไปต่างประเทศได้ตลอดเวลา ซัมซุง โซลิดสเตทไดรฟ์ (SSD) 30.72TB PCIe Gen4 NVMe หรือหน่วยความจำจากซัมซุง มีความเร็วและขนาดความจุที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ขณะนี้ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยรองรับการเปิดใช้งานข้อมูลด้านอินเตอร์เน็ตและโครงสร้าง Big Data ซึ่งมีบทบาทอย่างมากต่อผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลเอไอ (AI) และไอโอที (IoT) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชัน Samsung Global Goals ถูกพัฒนาขึ้นบนความร่วมมือของซัมซุงและโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP เพื่อเป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับความเป็นมา รายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงข้อมูลด้านตัวเลขของเป้าหมายในแต่ละข้อ นอกจากนี้ ยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับระดมทุนเพื่อการกุศล โดยสามารถทำได้ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ บริจาคให้กับโครงการโดยตรงผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็ปไซต์ของ UNDP หรือ เลือกมีส่วนร่วมกับโฆษณาบนแอปเพื่อบริจาครายได้ทั้งหมดที่ซัมซุงได้รับจากโฆษณาให้แก่โครงการ ซึ่งแอปพลิเคชัน Samsung Global Goals ถือเป็นการต่อยอดประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ใช้งานทุกวันเพื่อช่วยโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งดีๆ และมีความรู้สึกที่ดีด้วยเช่นกัน

แนะนำข่าวออกแบบ  อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าระดับอาเซียน

แอบไปชมนิทรรศการ GUCCI GARDEN ARCHETYPES ที่ออสเตรเลีย

แอบไปชมนิทรรศการ GUCCI GARDEN ARCHETYPES ที่ออสเตรเลีย มัลติมีเดียผสานโลกเสมือนจริง

 ออกแบบ Gucci Garden Archetypes นิทรรศการมัลติมีเดียที่ผสานโลกเสมือนจริง ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เดินทางมาถึงที่ Powerhouse Ultimo ณ เมืองซิดนีย์ ออสเตรเลียแล้ว นิทรรศการครั้งนี้จะนำแคมเปญโฆษณาที่ประสบความสำเร็จ และมีแนวคิดอันแปลกใหม่ที่สุดของ Gucci จากวิสัยทัศน์ของ Alessandro Michele มาถ่ายทอดใหม่ โดยนิทรรศการที่กำลังจัดขึ้นที่ซิดนีย์นี้ถือว่าเป็นลำดับที่ 7 หลังจากที่จัดมาแล้วในเซี่ยงไฮ้ ไทเป ฮ่องกง โตเกียว และโซล จากความหมายของคำว่า Archetype ที่กล่าวถึงรูปลักษณ์ดั้งเดิม มีเพียงหนึ่งเดียวและจะไม่ถูกสร้างอีกครั้ง เป็นต้นแบบของสำเนาที่ตามมาทั้งหมด แคมเปญโฆษณาทุกแคมเปญของ Gucci ล้วนกล่าวถึงห้วงเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของแต่ละคอลเล็คชั่น สะท้อนถึงความเป็นหนึ่งเดียว และถ่ายทอดปรัชญาแห่งความกล้าหาญและเสรีของ Alessandro Michele ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Gucci นั่นเอง Gucci Garden Archetypes จะเจาะลึกลงไปสู่แรงบันดาลใจอันหลากหลาย ทั้งจากโลกแห่งเสียงดนตรี ศิลปะ การเดินทาง และป๊อปคัลเจอร์ ที่สะท้อนออกมาผ่านแคมเปญโฆษณาของ Gucci “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าสนใจที่จะเปิดให้ผู้คนเข้ามาสัมผัสกับการผจญภัยอันยาวนานเกือบแปดปีนี้ และเชิญทุกคนให้ก้าวเข้ามาสู่จินตนาการ เรื่องเล่า สิ่งเหนือความคาดหมาย และความหรูหรา ดังนั้น ผมจึงได้สร้างสนามเด็กเล่นทางอารมณ์อันหลากหลาย ที่จะสะท้อนความรู้สึกที่อยู่ในแคมเปญเหล่านั้น เพราะนั่นจะเป็นการเดินทางที่ชัดเจนที่สุดไปสู่โลกแห่งจินตนาการของผม” Alessandro Michele กล่าวในฐานะภัณฑารักษ์ของนิทรรศการนี้

เทคโนโลยีสุดล้ำยุค งานฝีมืออันแสนวิจิตร และงานออกแบบภายในที่แปลกใหม่

 ข่าวออกแบบ ร้อยเรียงร่วมกันจนถือกำเนิดเป็นเรื่องราวที่แตกต่างภายในโลกที่ชวนดื่มด่ำ ซึ่งทั้งหมดออกแบบโดยสตูดิโอ Archivio Personale จากการแปลงวิสัยทัศน์ของ Alessandro Michele ให้กลายเป็นพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวซึ่งทั้งสะท้อนและส่งเสริมวิสัยทัศน์สร้างสรรค์ของเขาในเวลาเดียวกัน เมื่อก้าวเข้าสู่นิทรรศการ ผู้เยี่ยมชมจะได้รับประสบการณ์ที่เสมือนการชมงานเบื้องหลังผ่านทางห้องปฏิบัติการ ที่จะถ่ายทอดบรรยากาศสดภายในห้องจัดแสดงผ่านจอแสดงผลแบบแยก ภายในนิทรรศการ พื้นที่ที่ถูกแบ่งเป็นธีมต่างๆ มากมายจะปลุกโลกที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนของแคมเปญโฆษณาของ Gucci ให้ดูมีชีวิตขึ้นมาในทันใด “ทาง Powerhouse รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นสถานที่จัดนิทรรศการ Gucci Garden Archetypes ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย Alessandro Michele ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ผู้เลิศล้ำของ Gucci ได้นำเอาแง่มุมของแฟชั่นที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะ ดนตรีและสร้างสรรค์นิทรรศการที่จะนำผู้ชมไปสู่การเดินทางที่หลอมรวมโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เป็นดั่งการเดินทางที่ท่องไปท่ามกลางแรงบันดาลใจเบื้องหลังแคมเปญโฆษณามากมาย ซึ่งกลายเป็นไอคอนของแบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงก้องโลก” Lisa Havilah ผู้บริหารสูงสุดของ Powerhouse กล่าวถึงงานนิทรรศการครั้งนี้ นอกจากนี้ ผู้ชมนิทรรศการยังจะได้เข้าชมสวนสวรรค์แห่งดอกไม้หอมอย่าง Gucci Bloom สวนลับในจินตนาการที่กลายมาเป็นสถานที่แห่งเสรีภาพสำหรับเซเลบริตี้ทั้งสาม ได้แก่ นักแสดงสาว Dakota Johnson ศิลปินและช่างภาพ Petra Collins และนักแสดง/นางแบบ Hari Nef ด้วยบุคลิกที่มีเสน่ห์และโดดเด่นไม่ซ้ำแบบใคร ทั้งสามจะทำหน้าที่เป็นบุกเบิกวิสัยทัศน์ใหม่ของ Alessandro Michele ในการตีความหมายของสตรีในโลกยุคปัจจุบัน ภาพวาดกราฟิตีบนฝาผนังนั้นนำมาจากแคมเปญก่อนฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 ที่อุทิศให้กับเยาวชนของปารีสในเหตุการณ์ ‘May 68’ ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีของเหตุการณ์ดังกล่าว อีกหนึ่งแคมเปญที่ถูกนำมารังสรรค์ขึ้นใหม่ในนิทรรศการครั้งนี้คือ The Beloved Show ซึ่งเล่าฉากของดาราระดับเอลิสต์ของฮอลลีวูดหยอกล้อกับพิธีกรรายการทอลค์โชว์ช่วงดึก โดยมีฉากหลังเป็นทิวทัศน์ของเมืองซิดนีย์ พร้อมอวดกระเป๋าถือจากคอลเล็คชั่น Beloved ทั้งสี่รุ่น ได้แก่ Dionysus, Horsebit 1955 และ Jackie 1961 สุดคลาสสิคทั้งสี่รุ่นของ Gucci ซึ่งล้วนแต่เป็นกระเป๋าที่มีเรื่องราวของตนเองทั้งสิ้น แคมเปญของคอลเล็คชั่นอันน่าหลงใหลจาก Fall Winter 2018 จะครองพื้นที่จากพื้นจรดเพดานขณะที่ผู้มาชมนิทรรศการไม่อาจละสายตาจากชั้นที่เต็มไปด้วยนาฬิกานกกาเหว่า (Cuckoo Clock) นับร้อยๆเรือน เครื่องถ้วยเซรามิคและกระเป๋ารุ่น Marmont นอกจากนี้ ผู้ชมยังจะได้พบตัวเองอยู่ในฉากของห้องน้ำในไนต์คลับยุค 80 จากแคมเปญ Spring Summer 2016 อีกด้วย

แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเมติมคลิกเลย : Patana Intercool ผนึก BAUEN เสริมแกร่งพอร์ตเครื่องใช้ไฟฟ้า

ศิลปกรรม DPU ร่วมอนุรักษ์ผ้าไทย อัพผ้าขาวม้ารับเทรนด์แฟชั่น

นักศึกษาเอกการออกแบบและธุรกิจแฟชั่น ศิลปกรรมศาสตร์ มธบ.ร่วมอนุรักษ์ผ้าไทย ออกแบบ ผ้าขาวม้าไทยใน 3 ชุมชน

ออกแบบ ภายใต้โครงการ Creative Young Designer สร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์-สินค้าไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ สอดรับทุกเทรนด์แฟชั่น สร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนนายปรัชญา พิระตระกูล หัวหน้าวิชาเอกการออกแบบและธุรกิจแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU กล่าวถึงโครงการ Creative Young Designer ซึ่งได้นำเสนอในงาน Sustainability Expo 2022 ตามที่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้ง บริษัทประชารัฐรักสามัคคี เพื่อพัฒนาสินค้าชุมชนโดยมุ่งเน้นเรื่องของผ้าขาวม้า ซึ่งเป็นเสมือนวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คนในแต่ละชุมชน และเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานนั้น ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการดีไซน์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าในแต่ละชุมชนให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่มช่วงอายุ ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนรุ่นเก่านายปรัชญา กล่าวต่อว่าโครงการ Creative Young Designer มีการดำเนินการมาแล้ว 3 ปี ซึ่งก่อนจะเข้าร่วมโครงการนั้น ทางคณะศิลปกรรมศาสตร์ มธบ. ได้มีโครงการให้นักศึกษาลงพื้นที่ในชุมชนต่างๆ เพื่อร่วมออกแบบ ยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าในชุมชนอยู่แล้วอย่าง การออกแบบผ้าขาวม้าของชุมชนที่ จ.หนองบัวลำภู ทั้งนี้ เมื่อทางไทยเบฟฯ เข้ามาสนับสนุนโครงการดังกล่าว จึงได้เข้าร่วมตั้งแต่ปีแรก โดยได้พัฒนาออกแบบผ้าขาวม้าของชุมชนบ้านน้ำมอญแจ้ซ้อน จ.ลำปาง ซึ่งจะเป็นผ้าขาวม้าย้อมมือสีธรรมชาติ นักศึกษาก็ได้ออกแบบเป็นชุดเสื้อผ้าสไตล์มินิมอล เรียบแต่สวยเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่นศ.ร่วมออกแบบส่งเสริมผ้าไทย อัพผ้าขาวม้าตอบโจทย์เทรนด์แฟชั่น
ต่อมาปีที่ 2 ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าของชุมชนหาดเสี้ยว จ.สุโขทัย ผ้าขาวม้าจะเป็นลักษณะสีดำ ขาว และขณะนั้นมีสโมสรสุโขทัยเข้าร่วมสนับสนุน นักศึกษาจึงออกแบบจากผ้าขาวม้าและผสมผสานกับผ้าทอเส้นด้ายรีไซเคิลจากเสื้อผ้าเก่าของบริษัทเอส ซี แกรนด์

ศิลปกรรม DPU

กลายเป็นชุดสปอร์ตตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่สนใจรักสุขภาพ หรือเทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าสปอร์ต และสอดรับกับความต้องการของผู้สนับสนุนในการนำชุดกีฬาจากผ้าขาวม้าไปสวมใส่แข่งขัน

ออกแบบ ขณะที่ปีล่าสุด ชุมชนนาหมื่นศรี จ.ตรัง ผ้าขาวม้าจะสีสันฉูดฉาดมาก โดยได้นำไอเดียเสื้อผ้าแนวสตรีท (Street Fashion) ของเด็กรุ่นใหม่ มาปรับใช้โดยมีการตัดต่อที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลายกลุ่ม โดยภายในงาน Sustainability Expo 2022 ได้มีการลงนามความร่วมมือโครงการ Creative Young Designers ปี 2565 และมีพิธีส่งมอบผลงานแฟชั่นไลฟ์สไตล์ให้กับชุมชน เมื่อ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา“การเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ทำให้นักศึกษาได้ลงพื้นที่ชุมชน เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ซึ่งทำให้พวกเขาได้เห็นว่าผ้าไทย และชุมชนมีการผลิตวัตถุดิบอย่างไรบ้าง และเห็นความสำคัญของผ้าไทย เพราะต้องยอมรับว่าเด็กรุ่นใหม่อาจจะมีมุมมองแบบตะวันตก การที่ไทยเบฟร่วมสนับสนุน และเปิดโอกาสให้เด็กเข้าร่วม ถือเป็นการสร้างสรรค์เสื้อผ้าไทย วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักทั้งในกลุ่มของนักศึกษาเอง และคนทั่วโลก” นายปรัชญา กล่าวเมื่อเกิดการสร้างสรรค์ผ้าขาวม้าให้เป็นผลิตภัณฑ์ตามเทรนด์ใหม่ๆ นอกจากจะทำให้เกิดความยั่งยืนแก่ชุมชน สร้างความยั่งยืนแก่นักศึกษา เกิดไอเดียนำผ้าเก่ามาใช้ใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ ยังทำให้คนไทยและคนทั่วโลกรู้จักผ้าไทยและรู้จักการอนุรักษ์สวมใส่ผ้าไทยมากขึ้นส่งเสริมนักศึกษาเรียนรู้จากพื้นที่จริง สร้าความยั่งยืนแก่ชุมชน
นายปรัชญา กล่าวต่อว่า นักศึกษารุ่นใหม่เขามีไอเดีย เข้าถึงเทรนด์ต่างๆ ได้มากมาย ดังนั้น การเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้เรียนรู้ และได้นำความรู้ไปใช้ได้จริงสำคัญอย่างมากการเรียนของวิชาเอกการออกแบบและธุรกิจแฟชั่น ได้เน้นให้นักศึกษาเรียนรู้จากการลงมือทำจริงๆ จากโจทย์ที่มาจากชุมชน หรือผู้สนับสนุนจริงๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทย สินค้าไทยให้เป็นเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ หรือของที่ระลึกที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าผ่านการใช้ไอเดียสร้างสรรค์ในการสร้างผลงาน“การที่นักศึกษาได้เห็นชุมชน ซึ่งแต่ละชุมชนมีศักยภาพอย่างมากในการดูแลผ้าไทย จะเป็นการสร้างความตระหนัก ปลูกฝัง และได้นำสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนมาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์สินค้า และบริการ เป็นการเพิ่มรายได้ สร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชน และเปิดมุมมองให้แก่นักศึกษา ขณะเดียวกันลูกค้า ผู้บริโภคก็จะได้เห็นผ้าไทยในมิติใหม่ๆ ที่สอดรับกับยุคสมัย ใครๆ ก็สามารถใส่หรือใช้ผ้าไทยได้” นายปรัชญา กล่าวด้าน น.ส.เกวลี กิตติอุดมพันธ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 วิชาเอกการออกแบบและธุรกิจแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มธบ. กล่าวว่า ตนเองได้มีโอกาสร่วมออกแบบในโครงการ Creative Young Designer ในส่วนสินค้าไลฟ์สไตล์ของชุมชนนาหมื่นศรี จ.ตรัง ซึ่งเป็นการนำผ้าขาวม้าที่มีสีสันฉูดฉาดมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์หมอนอิง กระเป๋า พวงกุญแจ ของที่ระลึกต่าง ๆ ที่นอกจากจะออกแบบให้ทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่แล้วยังให้คุณค่าเดิมของคนในชุมชนที่ยังรักษาวิถีชีวิตทอผ้าขาวม้า โดยเพิ่มเติมรูปแบบใหม่และให้มีสีสัน

แนะนำข่าวออกแบบ  อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : เครื่องช่วยฟังมหัศจรรย์

“ป๊อบ” มาเต็งจิ้นหนัก “ออกแบบ ชุติมณฑน์” งานรุมแน่นๆ พลิกคาแรกเตอร์ รับบท “แอน”

กลับมาปัง! นางแบบ-นางเอกสาวหน้าเก๋ ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง ถือว่าแต้มบุญสูง มีงานรุมแน่นๆ ทั้งละครและภาพยนตร์

เข้ามาให้แฟนๆได้ติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พลิกคาแรกเตอร์ รับบท “แอน” ในภาพยนตร์ขนหัวลุกแห่งปี “Faces of Anne” ค่ายเอ็ม พิคเจอร์ส ผลงานของผู้กำกับคงเดช จาตุรันต์รัศมี พร้อมปลุกทุกโสตประสาทให้ตื่นกลัวพร้อมปมปริศนา 13 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ จะถูกคลี่คลาย ส่วนคาแรกเตอร์จะเป็นยังไง เจ้าตัวแอบสปอยล์เป็นน้ำจิ้มๆให้ฟังว่า“จริงๆเราเล่นเป็นคนๆเดียวกันกับทุกคน ทั้งเรื่องที่คนเห็นนักแสดงมากมาย เราเล่นเป็น “แอน” คนเดียวกันหมด แต่คาแรกเตอร์จะแตกต่างกันด้วยบุคลิกตามพล็อตเรื่องของแต่ละคน”“เป็นด้านใหม่ที่คนจะได้เห็นถึงความคิดของตัวละคร ออกแบบรู้สึกว่าแอนมันเป็นทริลเลอร์ ดูน่ากลัวแต่จะให้อะไรกับคนดูเยอะมาก ช่วงที่หลายๆคนยังไม่ค้นพบหรือยังค้นหาตัวเองอยู่ ส่งต่อเมสเสจเยอะมากๆในแต่ละตัวละครที่เราเปลี่ยนหน้ากันไป”ตอนเล่นสับสนมั้ยเพราะทุกคนคือแอนเหมือนกันหมดทุกคน“ต้องคุยกันเยอะมาก เพราะไม่ใช่แค่เปลี่ยนหน้า มี CG ด้วย ซึ่ง CG ก็ยากแล้วเพราะมันต้องใช้เวลา ทำยังไง อารมณ์ต่อคนนี้ทำยังไงต่อ ทำการบ้านหนัก คุยกันมากขึ้น ด้วยบท อ่านเองยังงงเลย เอ๊ะอันนี้ตัดช่วงยังไง ต้องคุยกับพี่คงเดชพี่ทีมงานอยู่เรื่อยๆเลย มีสรุปของเรื่องนี้ใครต่อกับใคร แอบงงนิดนึง เป็นความ ยาก ที่ต้องเวิร์ก ช็อป แล้วเวิร์ก ช็อปกันเยอะมาก มีผ่านซูมด้วย และมาเจอกันด้วย เวลาทำงานอยู่หน้ากองโหด แต่หลังกองเฮฮามาก ตั้งแก๊งแชตคุยกัน เวลาไปไหนคนจะทักนะ อย่างพี่ต่อ-ธนภพ จะทักฮัลโหลแอน มียิงมุกกลับ แอน ทองประสมเหรอ? ส่วน พี่แอนยังถามด้วยนะทำไมพี่ไม่ได้เล่นเรื่องนี้พี่ก็ชื่อแอน (หัวเราะ)”

งานรุมแน่นๆ พลิกคาแรกเตอร์ รับบท

ความตื่นเต้นท้าทายที่ได้เล่นเรื่องนี้

“สิ่งที่ตื่นเต้นคือการทำงานร่วมกันกับทุกคนเพราะว่า อันนี้ไม่ใช่บทที่เราทำการบ้านคนเดียว ปกติเรารับบทมาก็ต้องทำการบ้านคนเดียวแต่เรื่องนี้ไม่ใช่ ทำกับหลายๆคนพร้อมกันเพราะว่ามันคือการส่งต่อเราวิ่งผลัดไปเรื่อยๆมันเลยยาก อารมณ์ถึงตรงไหนแล้ว ต้องดูหลังมอนิเตอร์ เราเล่นต่อจากเค้าแล้วจะยังไงต่อ”“เฟสออฟแอน” ถือว่าเป็นเรื่องรวมสาวๆในเรื่องเดียวกันได้เยอะมากทั้งปันปัน, อุ้ม-อิษยา, ก้อย-อรัชพร, เจนนิษฐ์ BNK48, มินนี่ ฯลฯ “ดีใจได้ร่วมงานกับทุกคน ได้ทำงานกับคนเก่งๆ เหมือนแต่ละคนงัดอาวุธตัวเองเต็มที่มากๆกับเรื่องนี้ ในบทไม่ยอมกันแต่พอคัต ติ๊งต๊องกันเลย”ใครนำ “มินนี่ค่ะ ติ๊งต๊องมาก เหมือนอยู่แก๊งโรงเรียนหญิงล้วน มีแต่ผู้หญิง อะไรก็ได้เลย คุยเล่น เม้าท์มอย กินขนม เที่ยงคืน สั่งผลไม้มากิน เป็นความสนุกอีกแบบ”สลัดลุค “แอน” กลายเป็น นางแบบสวยๆเริ่ดๆ ขึ้น “มาลัยไทยรัฐ” กับ สามลุค สามสไตล์ ทั้งลุคหวาน ลุคเท่ หรือลุคหวานซ่อนเปรี้ยวก็เฟียสไม่เบา!! จาก แบรนด์ดัง Nichp, Canitt, vickteerut ฝีมือดีไซเนอร์คนไทย ที่นางแบบรู้สึกว้าวมาก…ก แต่งหน้า : เอกรินทร์ วงศ์อกนิษฐ์, ช่างผม : พูนทัศน์ เลิศมโนรัตน์ เนรมิตความสวยเฉี่ยว สไตลิสต์ เทพทิวา เทวกุล ณ อยุธยา และช่างภาพ โดยพินิจ รักพงษ์“ชุดที่ใส่วันนี้จะเป็นแบรนด์ไทยหมดเลยออกแบบชอบสนับสนุนดีไซเนอร์ไทย คัตติ้งไม่แพ้แบรนด์นอกเลย แล้วสวยมากอย่างแบรนด์ Nichp เพิ่งเคยลองใส่ ชอบ สวยเพราะมันเหมาะกับสรีระผู้หญิงจริงๆ และเหมาะกับเรา ตอบโจทย์ หวานได้เซ็กซี่ได้ก็เลยอยากให้คนได้เห็นเราในหลายๆลุค”ลุคไหนตัวตนออกแบบมากที่สุด “เอาจริงๆน่าจะลุคเท่ๆ เพราะเราเป็นคนแมนๆภายนอก ถ้ามาแนวเซ็กซี่มากๆเราไม่ไหว ไม่สู้ ไม่รู้ทำไมคิดว่าไม่ใช่ตัวเอง เขิน เป็นคนไม่แต่งตัวเซ็กซี่ขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องงานไม่ทำ”แต่ไม่ว่าลุคไหนชีออกแบบ เอาอยู่!!สถานะหัวใจสาวออกแบบส่อแววจะ “โสด” ไม่สนิท!! หลังมีกระแสข่าวคู่จิ้นมาแรงกับ ป๊อบ-ธัชทร ทรัพย์อนันต์ หนุ่มสายละมุน เพื่อนสนิทรั้วมหาวิทยาลัย

แนะนำออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : เผย 20 ไอเดียของคนรุ่นใหม่ ส่งนวัตกรรมจากทั่วโลกเข้าชิงรางวัล

ทาสแมวมือใหม่ควรรู้ 8 ไอเดียออกแบบห้องแมว รับรองนายเหมียวถูกใจ

การออกแบบห้องแมวเกิดเรื่องสนุกสนาน คุณจำเป็นต้องเลือกการตกแต่งที่สวยที่สุด

จัดสถานที่ที่จะมอบโอกาสแมวของคุณได้บริหารร่างกายอย่างสนุก พร้อมกับกระตุ้นจิตใจของเหล่าแมวเหมียวด้วย ยิ่งกว่านั้นเพื่อไม่ให้พวกเขาเบื่อ ห้องแมวของคุณจำเป็นต้องเป็นการผสมกันระหว่างสไตล์และก็การใช้แรงงานได้จริง มีของเล่นเด็ก และก็พื้นที่มากมายก่ายกองให้กับเหล่านายเหมียว รวมทั้งนี่เป็นไอเดียการออกแบบห้องแมวที่ต้องการชี้แนะ

ไอเดียดีไซน์ห้องแมว

1.หาห้องที่สมควร
ถ้าคุณมีพื้นที่ว่างให้พินิจพิเคราะห์จัดห้องให้กับแมวของคุณ แม้กระนั้นหากไม่มีก็ช่างเถอะคุณสามารถแปลงห้องนอนแขก หรือห้องทำงานเล็กน้อยให้เป็นห้องของแมวได้หรือจะทดลองใช้พื้นที่ใต้บันได หรือตู้เก็บเสื้อผ้าแบบวอล์กอินก็สามารถสร้างห้องของแมวได้ นอกเหนือจากนั้นคุณยังสามารถเปลี่ยนแปลงมุมห้องรับแขกของคุณให้เป็นห้องน้องเหมียวได้ด้วยเหมือนกัน

2.ประสมประสานของเด็กเล่นทั้งยังแบบอินเตอร์แอกหนฟ รวมทั้งแบบเริ่มแรก
ของเด็กเล่นแบบอินเตอร์แอกครั้งเป็นแนวทางที่เยี่ยมสำหรับเพื่อการกระตุ้นให้แมวของคุณเป็นสุข แม้คุณจะไม่อยู่บ้าน แมวบางตัวถูกใจปลาที่ขยับเขยื้อนไปๆมาๆเมื่อสัมผัส บางตัวถูกใจอุโมงค์ต้นหญ้า แล้วก็เพื่อเย้ายวนใจพวกเขาคุณอาจใช้ทางวิ่งที่วางแบบมาเพื่อแมว หรือแมวบางตัวถูกใจของเด็กเล่นที่ช่วยไขปัญหา ยกตัวอย่างเช่นบอลขนาดเล็กที่เกลือกไปๆมาๆ หรือของเล่นเด็กปัญหาที่แมวของคุณจำต้องเอื้อมเข้าไป แล้วก็ดึงของกินเม็ดเล็กออกมา

นอกเหนือจากของเล่นเด็กพวกนั้นแล้วยังต้องมีของเล่นเด็กแบบเริ่มแรกด้วย ยกตัวอย่างเช่นแมวบางตัวถูกใจของเด็กเล่นที่เต็มไปด้วยต้นหญ้า หรือไม้ที่มีขน

3.วางที่ลับเล็บแมว และก็ต้นไม้ต่างๆเอาไว้ในห้อง
แมวของคุณถูกใจข่วนแล้วก็ป่ายปีน มันเป็นสัญชาตญาณที่จำต้องเผชิญทดลองจัดต้นไม้แมวหลายต้นที่มันสามารถตะกายได้ และก็ข่วนที่มันขีดข่วนได้คุณอาจจำเป็นต้องแขวนคอนโดแมวเพื่อความมากมายหลากหลายเพิ่มมากขึ้น

ออกแบบ

คุณควรจะทดลองใช้ที่ลับเล็บแมวทั้งยังแบบแนวระดับและก็แนวดิ่งที่ผลิตจากวัสดุต่างๆเพื่อค้นหาว่าแมวของคุณถูกใจแบบไหน แมวบางตัวถูกใจที่จะเหยียดตัวสูงเกา

4.ปรักปรำครีเอทีฟกับส่วนป่ายปีน
ถ้าหากคุณปรารถนาประดิษฐ์จริงๆให้จัดชั้นวางและก็มุมปีนป่ายกำแพงบริเวณห้องแมวของคุณ เช็กให้มั่นใจว่าสามารถรองรับน้ำหนักของแมวได้ บางบุคคลจัดตั้งชั้นไว้ให้แมวปีนเพียงแต่ไม่กี่ชั้น ในขณะบางบุคคลจัดตั้งไว้บริเวณห้อง

5.จัดตั้งกระบะทราย
คุณต้องมีกระบะทรายในห้องของแมว ทดลองวางไว้ภายในมุมที่สงบเงียบของห้อง และก็สังเกตว่าเหมียวน้อยของคุณชอบกล่องแบบมีฝาปิด หรือกล่องแบบฝาเปิด รวมถึงความลึกของกระบะ ถ้าหากแมวของคุณชอบกล่องปิดคุณยังสามารถหลบซ่อนกล่องทิ้งขยะไว้เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของเครื่องเรือนเพื่อลดกลิ่นไม่พึงปรารถนา

6.จัดวางที่ใส่ของกิน แล้วก็น้ำ
แน่ๆว่าไม่มีห้องแมวใดที่จะเพอร์เฟ็คได้ถ้าขาดที่ใส่ของกิน รวมทั้งน้ำ โดยคุณอาจเลือกเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ เพื่อแมวของคุณได้รับของกินในขณะเดียวกันทุกๆวันหรือคุณสามารถเก็บของกินและก็ของหวานของแมวไว้ภายในภาชนะปิดที่แมวน้อยของคุณไม่สามารถที่จะเจาะเข้าไปได้

7.จัดตั้งเตียงแบบสบายให้แมว
แมวถูกใจนั่งพักผ่อนแล้วก็นอน ด้วยเหตุนี้อย่าลืมจัดเตียงนุ่มสัก 2-3 เตียงสำหรับในตอนที่แมวของคุณอยากได้พัก เพียรพยายามจัดเตียงอย่างต่ำ ชุดไว้ใกล้หน้าต่าง โดยที่แดดจะส่องลงมาในตอนระหว่างวัน

8.ปลูกต้นไม้ที่มีความปลอดภัยสำหรับแมว
ถ้าคุณปรารถนาทำให้ห้องนี้พิเศษจริงๆให้ปลูกต้นไม้ที่ปลอดภัยต่อแมว ร้านค้าขายสัตว์เลี้ยงดูเหมือนจะทุกร้านค้ามีต้นหญ้าแมวที่ดีไซน์มาโดยยิ่งไปกว่านั้นสำหรับแมวของคุณ